โดย - นายสวีสอง
“เห็ดฟาง”หรือเห็ดบัว บ้านเราปลูกทั้งเพื่อไว้กินเอง ปลูกเชิงพาณิชย์ เพราะรสชาติอร่อย เป็นเห็ดที่นิยมกินกันมากเป็นลำดับแรกในบรรดาเห็ดด้วยกัน
แต่เดิมมักเรียกว่าเห็ดบัว เนื่องจากมักขึ้นตามเปลือกเมล็ดบัวที่กะเทาะเมล็ด แต่ภายหลังเริ่มมีการเพาะปลูกอย่างจริงจังโดยใช้ฟางในการเพาะเห็ด จึงทำให้เปลี่ยนชื่อเรียกเป็นเห็ดฟาง
มีชื่อทาง ชื่อวิทยาศาสตร์: Volvariella volvacea ชื่อสามัญ Straw Mushroom มีถิ่นกำเนิดประเทศจีน ก่อนแพร่กระจายมาเพาะปลูกในแถบเอเชียตะวันออก และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้เป็นส่วนผสมในการประกอบอาหาร
ลักษณะดอกเห็ดอ่อน เป็นรูปไข่หรือรูปสามเหลี่ยมมุมป้าน เมื่อเจริญขึ้นจะปริแตกคงเหลือเยื่อหุ้มรูปถ้วยอยู่ที่โคนผิวนอกของเยื่อหุ้มส่วนมากจะเปลี่ยนเป็นสีขาวหม่นหรือสีเนื้อ
หมวกเห็ด เป็นรูปไข่ เมื่อบานเต็มที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 4–10 เซนติเมตร กลางหมวกมีขนละเอียด ครีบสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ไม่ยึดติดกับก้าน สั้นยาวไม่เท่ากัน ก้านยาว 4–10 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5–1 ซม. ส่วนบริเวณด้านล่างของหมวกเห็ดนี้จะมีครีบบางๆ และมีก้านดอกเป็นสีขาวละมุน
เป็นยอดแห่งอาหารเพื่อสุขภาพ มีธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเราหลายอย่าง ซึ่งหาได้ไม่ง่ายนักในพืชผักชนิดอื่นๆ ที่สำคัญไขมันต่ำ แคลอรี่น้อย
สรรพคุณและประโยชน์ นอกจากทำอาหารได้หลากหลายเมนูแล้ว ด้านสรรพคุณทางยา
- ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้นกันโรคให้แก่ร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง เนื่องจากมีวิตามินซีอยู่สูง
- สมานผิวทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดอาการติดเชื้อต่างๆ
- ลดอาการปวดบวมของเหงือกและฟัน
- แก้อาการคันตามผิวหนัง หรือผื่นคันตามร่างกาย
- แก้โรคลักปิดลักเปิด หรือเลือดออกตามไรฟัน
- ป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็ง เป็นการยับยั้งและชะลอการเกิดขึ้นของเซลล์มะเร็งร้าย
- บรรเทาอาการช้ำใน หรือปอดบวมในร่างกาย
- บำรุงตับให้แข็งแรง บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง แก้ช้ำใน
ข้อพึงระวัง : เห็ดฟางจะคล้ายกับเห็ดระโงกหิน ซึ่งเป็นเห็ดพิษเป็นอันตราย ซึ่งขึ้นอยู่ทั่วไปเช่นกัน ฉะนั้น ให้รอบคอบตรวจดูอย่างถี่ถ้วนก่อนหาซื้อมารับประทาน (ดูภาพเปรียบเทียบ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง