ข่าว

คิดใหม่..ยุคราคายางตกต่ำ ปลูก“มะเดื่อฝรั่ง”รายได้งาม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - สุวรรณี บัณฑิศักดิ์

             หลังจากที่ราคายางพาราตกต่ำต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้ผู้ใหญ่บ้านสาววัย 31 ปี “จอมขวัญ กองประดิษฐ์” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี มองว่าหากหวังที่จะหารายได้จากการทำสวนยางพาราอย่างเดียว ครอบครัวต้องเดือดร้อนแน่นอน จึงพยายามหาช่องทางใหม่ที่จะสร้างรายได้เพิ่ม

คิดใหม่..ยุคราคายางตกต่ำ ปลูก“มะเดื่อฝรั่ง”รายได้งาม

            ในที่สุด มองว่า “มะเดื่อฝรั่ง” หรือ พีช น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะในประเทศยังไม่แพร่หลาย ขณะที่ราคาบนห้างสรรพสินค้าแพงถึงกก.ละ 1,000 บาท เธอจึงใช้พื้นที่ 1 ไร่ภายในบริเวณบ้านปลูกมะเดื่อฝรั่ง ปรากฏว่ารายได้งาม ทั้งเก็บผลและขยายกิ่งขายแทบไม่ทัน

            จอมขวัญ บอกว่า ที่เลือกปลูกมะเดื่อฝรั่ง เพราะศึกษาแล้วว่าน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ จึงขอสนับสนุนสายพันธุ์จากศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบลมะขามเตี้ย 3 สายพันธุ์ คือ บีทีเอ็ม6 (Btm6 สายพันธุ์ญี่ปุ่น) สายพันธุ์แบล็กแจ็ก (Blackjack) และสายพันธุ์แบล็กจีนัว (Blackjenoa)

           ผลการทดลองปลูกปรากฏว่ากิ่งพันธุ์สามารถเจริญเติบโตไปได้ด้วยดีและให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีราคาแตกต่างกันไป แต่เกษตรกรทั่วไปนิยมปลูกสายพันธุ์บีทีเอ็ม6 เป็นสายพันธุ์เริ่มต้น โดยใช้เวลาปลูกประมาณ 6 เดือนก็ให้ผลผลิต

คิดใหม่..ยุคราคายางตกต่ำ ปลูก“มะเดื่อฝรั่ง”รายได้งาม

          “ฉันมองว่ามะเดื่อฝรั่งน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ปลูกเพียง 6 เดือน ให้ผลผลิตแล้ว หลังจากนั้นถ้าดูแลให้ดี จะให้ผลผลิตยาวนานบางสายพันธุ์ที่ศึกษามาจะอยู่ถึง 100 ปี แต่ต้องระวังโรคราสนิม และผลสุก เพราะมะเดื่อฝรั่งผลสุกจะอยู่ได้ไม่นานหากขายไม่ทันต้องแปรรูปอบแห้ง ตอนนี้ผลมะเดื่อฝรั่งอบแห้งที่วางขายกันในห้างสรรพสินค้า 1 กล่องมี 7-8 ผล ราคาอยู่ที่ 299 บาท หรือกิโลกรัมละ 1,000 บาท แต่ที่ฉันปลูกไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะมีลูกค้าสั่งจองกันล่วงหน้า” จอมขวัญ กล่าว

          เธอบอกว่า ข้อดีของมะเดื่อฝรั่งอีกอย่างหนึ่งคือเกษตรกรยังสามารถตอนกิ่งเพาะชำขยายพันธุ์จำหน่ายให้แก่ผู้ที่สนใจ อย่างที่สวนของเธอตอนกิ่งพันธุ์ขายแทบไม่ทัน ทำให้เธอมีรายได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันขายในราคาตั้งแต่ 200-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์แต่ละชนิดของมะเดื่อฝรั่งด้วย

          อย่างที่สวนของเธอตอนกิ่งมาแล้ว 9 เดือนสามารถขยายกิ่งพันธุ์ออกมาได้จำนวนมาก โดยสมาชิกนำไปปลูกเสริมกับสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันได้ จึงมองว่ามะเดื่อฝรั่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มีอนาคตไกล สร้างรายได้เป็นเงินล้านได้ไม่ยากนัก

คิดใหม่..ยุคราคายางตกต่ำ ปลูก“มะเดื่อฝรั่ง”รายได้งาม

          สำหรับข้อดีของมะเดื่อฝรั่ง เป็นผลไม้ที่ให้ผลผลิตเร็ว ไม่พบปัญหาเรื่องไม่ออกดอกติดผล เหมือนกับไม้ผลบางชนิด เพียงแต่คัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมเท่านั้น

         “ฉันว่ามะเดื่อฝรั่งจัดเป็นผลไม้แปลกและหายาก คนที่ไม่เคยกินมะเดื่อฝรั่งทุกคนมักจะคิดว่าเป็นผลไม้ไม่อร่อย เนื่องจากยังติดกับภาพมะเดื่อพื้นบ้านหรือมะเดื่อป่าของในบ้านเรา ที่มีแต่ยางและบางครั้งก็มีหนอน แต่มะเดื่อฝรั่งสดจัดเป็นผลไม้ที่รสชาติอร่อยมาก เป็นอาหารที่มีสรรพคุณทางสมุนไพรด้วย

          ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่ามีคุณค่าทางอาหารสูงมาก โดยเฉพาะปริมาณของธาตุแคลเซียม, ไม่มีธาตุโซเดียมที่เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง ข้อมูลบางตำราบอกว่า ถ้าบริโภคเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคนิ่วในไต ป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และช่วยฟอกตับและม้ามด้วย” เธอ กล่าว

         นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร ที่จะหาช่องทางสร้างรายได้ให้ครอบครัว เพราะมะเดื่อฝรั่ง หรือพีชนั้นเป็นไม้ผลที่วางจำหน่ายในตลาดบนและราคายังแพงมาก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ