กปร.พาตระเวนชมโครงการ “สื่ออาสา”สืบสานพระราชดำริ

           การสร้างเครือข่ายสถาบันการศึกษาเพื่อปลูกฝังแนวคิดคนรุ่นใหม่ให้สืบสานงานตามแนวพระราชดำริ เป็นอีกวิธีการต่อยอดโครงการพระราชดำริไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืน สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ในฐานะหน่วยงานกลางในการประสานงานโครงการ จึงจัดกิจกรรมโครงการ “สื่ออาสา สืบสานพระราชดำริ” และโครงการเครือข่ายสถาบันการศึกษาสืบสานพระราชดำริในเขตพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และราชบุรี เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อไปดูความสำเร็จของโครงการให้สื่อมวลชนซึ่งเป็นตัวกลางสำคัญในการถ่ายทอดไปสู่สาธารณชนได้รับทราบ   

           ม.ล.จิรพันธุ์ ทวีวงศ์ เลขาธิการสำนักงาน กปร. กล่าวระหว่างนำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนเยี่ยมชมโครงการว่าเพื่อให้ครู อาจารย์จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ได้รับรู้ถึงผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และทำหน้าที่ในการสืบสานและถ่ายทอดองค์ความรู้จากแนวพระราชดำริสู่นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและชัดเจนยิ่งขึ้น และเพื่อให้สื่อมวลชนซึ่งเป็นตัวกลางสำคัญในการถ่ายทอดแนวพระราชดำริ และผลสำเร็จจากโครงการสู่สาธารณชนเพื่อจะได้น้อมนำมาปฏิบัติใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและประเทศชาติต่อไป

          ในการนี้สื่อมวลชนได้ร่วมในพิธีเปิดโครงการ “เครือข่ายสถาบันการศึกษาสืบสานพระราชดำริ” โดยนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในพิธี นายปวัตร์ นวะมะรัตน ที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการพระราชดำริ สำนักงาน กปร. เป็นผู้กล่าวรายงาน

          โดยท่านองคมนตรีได้ให้โอวาทแก่คณะพร้อมให้แนวทางในการทำงานเพื่อเป็น “ครูต้นแบบตามแนวพระราชดำริ” และการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การสนองพระราชดำริของสำนักงาน กปร.” โดยที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการพระราชดำริ สำนักงาน กปร. และ “การขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษาของนิสิต นักศึกษา” โดยนายจำเริญ ยุติธรรมสกุล เลขาธิการมูลนิธิรากแก้ว

          จากนั้นคณะจากทั้ง 2 โครงการได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้แก้ไขปัญหาให้คนกับช้างป่าอยู่อาศัยหากินและทำมาหากินในพื้นที่ดังกล่าวด้วยกันได้

          ทั้งนี้ สำนักงาน กปร.ได้ดำเนินการสนองพระราชดำริ โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรเอกชน เข้ามามีบทบาทในการจัดทำ และใช้ “แผน” เป็นเครื่องมือดำเนินงาน โดยมีการปรับกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่างๆ ยังผลให้ปัจจุบันการใช้ชีวิตตามธรรมชาติของช้างป่าและประชาชนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีการทำร้ายซึ่งกันและกัน          

          พร้อมกันนี้คณะได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของโครงการและบ้านเกษตรกรในพื้นที่ อีกทั้งได้ร่วมทำโป่งเทียม และเสริมพืชอาหารสัตว์ป่า พร้อมทั้งร่วมกันทำฝายชะลอความชุ่มชื้นเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้ผืนป่า จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังโครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างตามพระราชดำริ จ.เพชรบุรี รับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานโครงการ โดยผู้แทนสำนักพระราชวังและผู้ดูแลโครงการ พร้อมร่วมกิจกรรมเรียนรู้ตลอดถึงลงมือปฏิบัติ

           อาทิ การเพาะเลี้ยงไรน้ำเค็ม การเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น การทำนาเกลือแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเยี่ยมชมโครงการศึกษาวิจัยฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ราชบุรี โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวทางในการปรับปรุงที่ดินเสื่อมโทรมให้มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกได้ 

            ขณะเดียวกันคณะก็ได้ชมการปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก การใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝกเพื่อปรับปรุงบำรุงดินและการแก้ปัญหาการพังทลายของหน้าดิน เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนป่าเขาเขียวชมความสมบูรณ์ของผืนป่าป่าเต็งรังและป่าเบญพรรณ การทำเกษตรแบบผสมผสานภายใต้แนวทางการฟื้นฟูดินด้วยหญ้าแฝก พร้อมเยี่ยมชมบ้านเกษตรกรตัวอย่างที่ได้น้อมนำพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฏิบัติใช้จนประสบความสำเร็จในการดำรงชีพและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างมั่นคง

            ศศิพร ปาณิกบุตร ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กปร. เผยว่า การจัดกิจกรรมในทั้ง 2 โครงการนี้ สำนักงาน กปร.มีเป้าหมายเพื่อให้คณะได้รับรู้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยในวิถีชีวิตราษฎร พระราชทานพระราชดำริให้มีการพัฒนาในด้านต่างๆ นับตั้งแต่ดิน น้ำ ป่า อาชีพ หรือแม้กระทั่งการศึกษา พระองค์ทรงทำมาอย่างต่อเนื่องตลอด 70 ปี ที่ทรงครองราชย์ และมีผลสำเร็จเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าพระองค์ทรงทำงานพัฒนาจนกระทั่งเห็นผลเป็นรูปธรรม สามารถเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ได้และเอื้อต่อการดำรงชีพทั้งคนและสัตว์ป่า บนพื้นฐานของการเกื้อกูลซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี

            นับเป็นกิจกรรมที่สำนักงาน กปร. ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายเพื่อให้แนวพระราชดำริทฤษฎีการพัฒนาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนผลสำเร็จจากการพัฒนาในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ  สามารถถ่ายทอดไปสู่สาธารณชนทุกระดับได้มีความเข้าใจและสามารถน้อมนำไปปฏิบัติใช้ให้บังเกิดประโยชน์ต่อไป