ข่าว

แรงบันดาลใจให้ฉันจับงานกล้วยไม้!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - ศ.ระพี สาคริก

          เธอที่รักฉันชอบพร่ำมาตลอดว่าตนไม่ทำเรื่องกล้วยไม้ แต่เหตุไฉนเธอก็ยังคิดไม่ได้ว่าฉันทำอะไร ก่อนอื่นฉันขอกราบเท้าเธอ หากจะพูดว่า “ฉลาดขึ้นมาอีกสักนิดแล้วจะรู้ความจริง” เพราะหลักธรรมก็ได้ชี้ไว้ว่า “ธรรมชาติของชีวิตคนเรานั้น แต่ก่อนเคยทำอะไรมา เดี๋ยวนี้ก็ยังคงทำเหมือนเดิม เพราะรากฐานจิตใจยังมั่นคงอยู่เสมอ”

          ถ้าเธอไม่ทราบ ฉันจะบอกให้ก็ได้ว่า “แรงบันดาลใจที่ทำให้ฉันจับงานกล้วยไม้” ก็เพราะเหตุว่าตัวฉันเองต้องการต่อสู้กับภัยสังคม หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าวว่า “เป็นเพราะจิตวิญญาณฉันมันเข้มแข็งและไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ แม้แต่การดูถูกเพื่อนมนุษย์”

          ฉันนึกถึงช่วงอายุได้เพียง 5–6 ขวบ ฉันได้เห็นคนนำกล้วยไม้มาเล่นเพื่อความหน้าใหญ่ใจโตของตน อีกทั้งยังใช้กล้วยไม้เป็นเครื่องมือดูถูกกลุ่มบุคคลที่ยังด้อยโอกาสรวมทั้งเด็กว่า ไม่มีเงินจะเล่น

          “เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญมากไปกว่าความศรัทธาในคุณงามความดี ซึ่งแต่ละคนมีอยู่ในจิตวิญญาณอย่างเป็นธรรมชาติมาตั้งแต่เกิด” นี่แหละคือความเป็นมนุษย์ที่รู้จักหยิ่งในศักดิ์ศรี ทั้งๆ ที่เราแต่ละคนต่างก็เกิดมาเป็นคนเหมือนกัน ฉันรู้ว่าสิ่งที่ผ่านมาแล้วทั้งหมดคือ “ปัญหาสังคม” ซึ่งเราทุกคนควรมีหน้าที่ช่วยกันคิดวิธีแก้ไขจากการ “ปฏิบัติ” โดยถือขันติธรรมเป็นที่ตั้งแม้ไม่จำเป็นต้องพูด อันหมายถึงหลักธรรมที่ชี้ไว้ว่า “หากยังไม่ถึงเวลาก็ควรนิ่งเฉยเสีย”

          ฉันนึกถึงเมื่อปี 2471 ฉันได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งถือกล้วยไม้เข้าไปยืนชุมนุมกันอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเขาเหล่านั้นมีนิสัยถือพรรคถือพวก ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและอยากได้ความรู้ของเด็กคนหนึ่ง ฉันจึงไปยืนชะเง้อคอดูอยู่หน้าบ้านพวกเขา ซึ่งพอเขามองเห็นฉันก็ให้ชายคนหนึ่งเดินออกมาไล่ให้ไปที่อื่น

          แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมก็พอดีกัน เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มองลึกลงไปถึงสันดานของมนุษย์ หากกลับไปพูดว่ากล้วยไม้เป็นบ่นทำลายเศรษฐกิจ สิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วนี่เองที่มันสอนให้ฉันควรมองให้เห็นได้สองด้าน ซึ่งจะต้องมองว่าด้านไหนคือส่วนสำคัญของอีกด้านหนึ่ง

          ฉันหวนกลับมาพิจารณาดูตัวเอง จึงรู้ได้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันอยู่ที่จิตวิญญาณมนุษย์ ยิ่งกว่านั้นฉันยังรู้ด้วยว่า “ดอกไม้ทุกชนิดมันสวยเหมือนกันหมด” แต่การที่มนุษย์เลือกว่า “ชนิดนั้นสวย ชนิดนั้นไม่สวย” แท้จริงแล้วมันก็อยู่ที่กิเลสมนุษย์นั่นเอง นี่แหละเป็นแรงบันดานใจให้ฉันมุ่งมั่นทำงานค้นคว้าทางด้านกล้วยไม้ ทั้งๆ ที่ตัวฉันเองก็ไม่ได้เรียนเรื่องกล้วยไม้มาจากสถาบันการศึกษาแห่งไหนทั้งนั้น

          ฉันสู้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งนำตัวเองไปใช้ชีวิตอยู่ในสภาพอดๆ อยากๆ แต่มันก็มีปณิธานที่มุ่งมั่นมาแต่แรกแล้ว “ต้องทำให้สำเร็จ”

          อนึ่ง หลักธรรมก็ได้ชี้ไว้ว่า ถ้าจับตรงนี้ได้ก็ต้องจับเรื่องอื่นที่มันใหญ่กว่าและสำคัญมากกว่าได้ด้วย ดังนั้น “เมื่อไม่มีวันนั้นก็คงไม่มีวันนี้” ที่ตัวฉันเองยังคงยืนหยัดอยู่กับความถูกต้องมาตลอดไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ส่วนความท้อถอยนั้นมันคงไม่มีอยู่ในหัวใจตัวเอง ฉันถึงได้พูดว่า “ฉันเคานท์ดาวน์มาตั้งแต่เกิด”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ