“เมล่อน”ไม้ผลทนแล้ง ราคาดี ตลาดต้องการสูง

 

              ปัจจุบันเมล่อนเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเกษตรกร เนื่องจากเป็นที่ต้องการสูงทั้งจากผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ สามารถปลูกได้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ใช้น้ำน้อย ไม่ชอบอากาศหนาว ให้ผลเร็ว ใช้เวลาราว 75 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ และถึงแม้ว่าจะต้องการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ แต่ผลตอบแทนที่ได้คุ้มเหนื่อยแน่นอน    

             ผู้ใหญ่หมู เล่าให้ฟังว่า เริ่มลงทุนปลูกเมล่อนเมื่อปี 2554 ใช้เงินลงทุนครั้งแรกราวสี่แสนบาท เพียงแค่ปีแรกก็มีกำไร หลังจากนั้นก็เลิกปลูกอ้อย หันมาขยายฟาร์มเมล่อน จนทุกวันนี้ "แตงโสภาฟาร์ม"มีโรงเรือนปลูกเมล่อน 103 โรง บนพื้นที่ราว 30 ไร่ ในพื้นที่ ต.แตงงาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี

             ด้านการตลาด "ผู้ใหญ่หมู" บอกว่าหายห่วง เพราะมีบริษัทแมคโครมารับซื้อถึงที่

            “แต่เราต้องรักษามาตรฐาน เพราะสิ่งสำคัญคือคุณภาพ อย่างแม็คโครไม่ใช่แค่มาซื้อจากเรา แต่มาคุยมาช่วยกันพัฒนาเพื่อให้ได้เมล่อนที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตของเรา” ผู้ใหญ่หมู กล่าว

            พร้อมย้ำอีกว่า แม้การปลูกเมล่อนจะให้กำไรสูง แต่คนที่ก้าวเข้ามาทำอาชีพนี้ต้องขยัน อดทน เอาใจใส่ จึงจะประสบความสำเร็จ

            มีเคล็ดลับเด็ดที่ผู้ใหญ่หมูแอบบอกคือ การผสมเกสรเพื่อให้ได้เมล่อน ต้องทำช่วงเช้า 7.00 น. - 9.00 น. เท่านั้น เมล่อนจะมีโอกาสติดลูกสูงทุกต้น ต้นเมล่อน 1 ต้นจะทำการผสมเกสรไม่เกิน 4 ดอก เมื่อติดลูกแล้วก็จะคัดทิ้งให้เหลือต้นละ 1 ลูกเท่านั้น เพราะจะทำให้ได้น้ำหนัก และความหวานตรงตามมาตรฐาน โรงเรือนขนาด 6.5 x 36 เมตร 1 โรงเรือน จะปลูกเมล่อนได้ราว 740 ต้น สร้างรายได้ราว 4.- 4.5 หมื่นบาท และที่เด็ดก็คือใน 1 ปีสามารถปลูกได้ถึง 3 รอบ

            สำหรับวงจรการปลูกเมล่อนจะเริ่มจาก วันที่ 1-10 การเพาะกล้าวันที่ 11-22 การตัดแต่งแขนง วันที่ 23-25 ผสมเกสร วันที่ 26-30 คัดผล-แขวนลูก ซึ่ง 30 วันแรกนี้จะเป็นช่วงวิกฤติต้องดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ จากนั้นวันที่ 31-60 จะเป็นช่วงเร่งลูก วันที่ 61-70 เพิ่มความหวาน และเก็บเกี่ยวในวันที่ 71-75 หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วเกษตรกรจะทำการพักดิน 1 เดือนแล้วจึงปลูกรอบต่อไป

            นอกเหนือจากความรัก ความเอาใจใส่ การหมั่นดูแลเมล่อนแล้ว พันธุ์ที่ใช้ปลูกก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะพันธุ์เมล่อนมีเป็นร้อยสายพันธุ์ โดยพันธุ์ที่แตงโสภาฟาร์มใช้นั้น เป็นพันธุ์เอมี่เนื้อเขียว และพันธุ์เอมี่เนื้อส้ม ที่เลือกใช้สองพันธุ์นี้เพราะเหมาะสมกับสภาพดินและสภาพอากาศในจังหวัดสุพรรณบุรี มีความต้านทานโรคและศัตรูพืช มีความหวานได้มาตรฐาน

            เกษตรกรท่านใดสนใจเรียนรู้วิธีการปลูกเมล่อน ผู้ใหญ่หมูยินดีให้คำแนะนำ สามารถติดต่อได้ที่ แตงโสภาฟาร์ม ต.แตงงาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี หรือโทรศัพท์ 081.924.8192 ที่สำคัญ ผู้ใหญ่หมูกระซิบว่า ทุกวันนี้ยังผลิตเมล่อนไม่พอกับความต้องการ หากสนใจและตั้งใจจริง ยินดีสอนให้ฟรี