ยุคทอง ข่าวออนไลน์ (ตอนจบ)

 

          ในยุคที่นิตยสารกระดาษหลายหัวทยอยอำลาแผงหนังสือไปทีละเจ้า การเกิดขึ้นของสื่อออนไลน์ดูจะกลายเป็นจำเลยในสายตาของสื่อเก่า

          การจะกล่าวเช่นนั้น ถ้าถามว่าถูกต้องหรือไม่ ก็คงจะตอบได้ว่า ถูกเพียงครึ่งเดียว

 

 

          เพราะปัญหาอีก 50% ที่สื่อเก่าหลายเจ้าคิดไม่ถึงหรือไม่ตระหนัก ว่าสาเหตุความถดถอยของสื่อกระดาษก็คือรูปแบบ CONTENT ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่การมาถึงของ PLATFORM ใหม่แต่เพียงอย่างเดียว

          ยกตัวอย่าง ข่าวการเปิดตัวศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ ไม่ใช่ CONTENT ว่าห้างไอคอนสยามตั้งอยู่ตรงไหน ใหญ่โตมโหฬารเพียงใด แต่เขาให้ความสนใจว่า DRONE จำนวน 1,500 ตัว จะบินชนกันหรือไม่ ในวันเปิดห้าง

          เมื่อ GENERATION คนอ่านเปลี่ยนไป บรรณาธิการต้องปรับมุมมองตาม หากว่ายังใช้กระบวนการบริหาร CONTENT แบบเดิม คงไปไม่รอด และมีตัวอย่างให้เห็นอยู่เสมอ

          โดย SCOOP ยุคทอง ข่าวออนไลน์ ชิ้นนี้ ก็ได้เดินทางมาถึงตอนจบแล้วครับ

          สี่ห้าสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมอาจไล่ลำดับ “สำนักข่าวออนไลน์” ได้ไม่ครบทุกองค์กร หรือทุกฉบับ แต่พยายามเลือกสรรคัดเอา “สำนักข่าว” ที่มีแนวทางใกล้เคียงกัน คือมีรูปแบบ CONTENT ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เสมือนเป็นตัวแทนในภาพกว้างของ “ยุคทอง ข่าวออนไลน์”

          อาจจะผสมผสาน “สำนักสื่อชื่อดัง” ที่มีรากฐานยาวนานในบ้านเรา เช่น เครือเนชั่น (คมชัดลึก) เครือผู้จัดการ ไทยรัฐ เดลินิวส์ บางกอกโพสต์ กับ “สื่อใหม่” หรือ NEW MEDIA ที่ถือเป็นน้องใหม่ไฟแรง SALIKA THE STANDARD THE PEOPLE TONKIT360 THE MATTER THE 101WORLD THE MOMENTUM และขอปิดท้ายที่ “สำนักข่าวอิศรา” และ “ประชาไท” ครับ

          “สำนักข่าวอิศรา” HTTPS://WWW.ISRANEWS.ORG โดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ได้จัดตั้ง “ศูนย์ข่าวอิศรา” ขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2548 และในปี พ.ศ. 2550 ก็ได้จัดตั้ง “สถาบันอิศรา” ก่อนที่จะต่อยอดมาเป็น “สำนักข่าวอิศรา” ในปี พ.ศ. 2554

          ทิศทางข่าวของ “สำนักข่าวอิศรา” นั้น เนื่องจากแต่เดิม “ศูนย์ข่าวอิศรา” เป็นการรวมตัวของนักข่าวส่วนกลางจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

          โดย “สถาบันอิศรา” ได้ทำหน้าที่กำกับดูแลและจัดการอบรมพัฒนาทักษะ ซึ่งผมเองก็ได้เคยไปเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมให้กับ “สถาบันอิศรา” ด้วยครับ

 

          นอกจากจะมีภารกิจหลักคืองานผลิตข่าวสารแล้ว “สถาบันอิศรา” ยังได้พัฒนาขยายงานด้านการสื่อสาร

          และที่สำคัญคือการเพิ่มหน่วยผลิตข้อมูลข่าวสารเฉพาะด้านเพื่อเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ ข่าวเพื่อชุมชน และข่าวนโยบายสาธารณะ โดยในปัจจุบันมีศูนย์ข่าวสืบสวนเพิ่มขึ้นมาอีกหน่วยงานหนึ่ง

          ส่วนสำนักข่าว “ประชาไท” HTTPS://PRACHATAI.COM ก็เกิดขึ้นในเวลาใกล้ๆ กัน

          แม้ในช่วงเริ่มต้น “ประชาไท” กับ “สำนักข่าวอิศรา” จะมีทิศทางที่ใกล้เคียงกัน แต่ในระยะต่อมา ดูเหมือนว่า “ประชาไท” จะพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด

 

          “จุดเด่น” ของ “ประชาไท” คือการวางตัวเป็น “ศูนย์รวมคอลัมนิสต์” ที่มีชื่อเสียงทั่วฟ้าเมืองไทย ซึ่งถือเป็น “จุดแข็ง” ที่สุดของ “ประชาไท” นั่นเองครับ