การปฏิวัติครั้งที่สาม (ตอนจบ)

          มีหนังสือที่น่าสนใจของสำนักพิมพ์ GREAT idea ในเครือสำนักพิมพ์ปัญญาชน เกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์และการบริหารประเทศจีน ซึ่งนอกจากจะกำลังทะยานขึ้นสู่มหาอำนาจของโลกยุคใหม่แล้ว ยังเป็นแบบเรียนและกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับนักบริหาร ไม่ว่าจะเป็นนักบริหารในวงการใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่น่าอ่าน “การปฏิวัติครั้งที่สาม” เป็นอย่างมาก

          “สี จิ้นผิง” เป็นผู้นำของจีนมากว่าห้าปีแล้ว

          “สี จิ้นผิง” ได้อธิบายวิสัยทัศน์ของเขา ให้แก่ประชาชนของประเทศจีนอย่างละเอียด โดยเขาเรียกร้องให้จีนกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ ควบไปกับความฝันเฉพาะของจีนไปพร้อมกัน สำหรับเขา ความฝันดังกล่าว คือการบรรลุถึงเป้าหมายที่ออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน คือในระหว่างปี 2010-2020 ประชากรจีนจะมีรายได้เป็นสองเท่าจากจีดีพี จีนจะต้องมีกองทัพ ที่สามารถทำศึกและชนะศึกสงครามได้ จีนจะต้องสร้างหลักสวัสดิการให้แก่สังคมจีนเท่ากันทุกคน และจีนจะธำรงไว้ซึ่งอุดมการณ์อันสูงส่งต่อไป โดยเขากล่าวว่า “การเลือกเส้นทางเดินของเรา จะมีผลต่อความเป็นและความตายต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน อย่างไม่ต้องสงสัย จีนจะธำรงไว้ซึ่งอุดมการณ์ต่อระบบสังคมนิยม ที่มาจากลักษณะของความเป็นจีน และนโยบายที่เด่นล้ำของจีนนั้น จะปรากฏให้เห็นในอนาคตอันสดใสของจีน”

          โดยสรุปแล้ว ความเข้มแข็งของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อภาคการเมืองจีนเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด “สี จิ้นผิง” ยังได้กล่าวถึงความฝันของจีน ที่มีรากจากการสะสมคุณค่าร่วมกัน ที่เขามองว่า มีคุณค่าแตกต่างจากความฝันแบบอเมริกัน ที่เน้นคุณค่าไปที่ตัวปัจเจกบุคคล โดยเขาเน้นว่า การสร้างความยิ่งใหญ่ของจีน มาจาก “ความฝันของคนทั้งชาติร่วมกัน ที่สอดคล้องกับความฝันของคนจีนทุกคน เพราะว่าเมื่อประเทศประสบความสำเร็จ ชาติก็จะประสบความสำเร็จ และทุกๆ คน ก็จะประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน”

          เชื่อเหลือเกินว่า รัฐบาลของ “โดนัลด์ ทรัมป์” คงจะเห็นด้วยกับผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เพราะสิ่งที่หนังสือเล่มนี้ได้บรรยายออกมาว่าจีนกำลังเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดต่อสหรัฐในอนาคตอันใกล้นี้ จึงทำให้รัฐบาลสหรัฐ ภายใต้ “ทรัมป์” ได้ “เตะเจาะจง” จีนอย่างไม่ยั้ง โดยทำการปรับภาษีจำนวนมหาศาล เพื่อสกัดกั้นสินค้านำเข้าจากจีน ที่กลายเป็นสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงไทยด้วย

          เป้าหมายของหนังสือเล่มนี้ คือการเข้าใจ ต่อโมเดลใหม่ของจีน ภายใต้การปกครองของ “สี จิ้นผิง” ที่แผนยุทธศาสตร์ของเขา คือการควบคุมภาคการเมืองและภาคเศรษฐกิจของจีนอย่างเบ็ดเสร็จ และการวางตัวของจีนบนเวทีโลกนั้น เราควรประเมินสิ่งเหล่านี้อย่างไร เพื่อการรับมือต่อยุทธศาสตร์ของจีนที่ว่านี้ เพราะในขณะนี้ หลายประเทศบนโลก ยังขาดความเตรียมพร้อม ต่อการรับมือของการเปลี่ยนแปลง และต่อยุทธศาสตร์ใหม่ของจีนนั่นเอง