ขับเคลื่อน BRAND

          พล็อตเรื่องของ THE POOL นรก 6 เมตร ถูกนำออกมาโฆษณาจนหมดเปลือกแบบไม่มีปิดบัง พร้อมกับการปล่อยภาพยนตร์ตัวอย่างที่เฉลยปมหลักๆ เกือบทั้งหมด ให้คนดูตัดสินและเลือกกันอย่างตรงไปตรงมา ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ-ดูหรือไม่ดู หนังแนวทดลองเรื่องนี้

          ความเป็นหนังแนวทดลองของ THE POOL นรก 6 เมตร ก็คือการใช้ฉากสระว่ายน้ำเพียงโลเกชั่นเดียวตลอดทั้งเรื่อง นำเสนอประเด็นการปีนขึ้นจากสระของคู่พระนางที่ทั้งเหนื่อยทั้งเพลียทั้งบาดเจ็บแค่ประเด็นเดียว หนำซ้ำยังยัดให้จระเข้โผล่ขึ้นมาจากฝาท่อใต้สระ

          แม้จะจงใจใช้บริการพระเอกระดับแม่เหล็กคือ “เคน” ที่ห่างหายไปจากวงการจอเงินถึง 10 ปี หลังจบโปรเจกต์รถไฟฟ้ามาหานะเธอในปี พ.ศ.2552 อย่างน้อยก็การันตียอดตั๋วจากแม่ยกแฟนคลับ “ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” ได้ระดับหนึ่ง แต่กับคนวงกว้างทั่วไปก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก

          เมื่อทั้งพล็อต ทั้งความเป็นหนังทดลอง ซึ่งพูดได้ว่าแทบไม่มีที่ทางใดๆ เลยในแวดวงหนังบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นหนังไทยหรือหนังเทศ โดยเฉพาะหนังไทยนี่ปิดประตูได้เลยสำหรับเรื่องรายได้ แม้จะมีทั้งชื่อ “ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” และ “พิง ลำพระเพลิง” ผู้กำกับค้ำอยู่ก็ตาม

          จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้แรงจูงใจในการลงทุนของค่ายหนังไหลไปที่ความพยายามขับเคลื่อนแบรนด์ของ T MOMENT ค่ายหนังน้องใหม่ในวงการหนังไทย ที่แม้จะเป็นการรวมตัวของคนหน้าเก่าคือ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กับคนกลางเก่ากลางใหม่อย่าง MONO FILM

          ลำพังชื่อชั้นของ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่มีแบรนด์แข็งแกร่งและยืนยงมากว่า 30 ปี แถมยังมีหน้าเสื่อเป็นโรงภาพยนตร์ในเครือตระกูลพูลวรลักษณ์ แต่หลังจากที่แยกทางกับ GMM GRAMMY ดูเหมือนแบรนด์ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จะอ่อนกำลังลงไปในช่วงที่ผ่านมา

          พลันเมื่อ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จับมือกับ MONO FILM บริษัทในเครือ JASMIN ที่ถือว่ามีสายป่านที่ทั้งยาวทั้งเหนียวเจ้าหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการรวบค่ายหนังของ MONO ทั้ง MONO FILM MONO PICTURE และ MOTIF+ รวมกันกลายเป็นค่ายใหม่คือ T MOMENT

          เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว คือปี พ.ศ.2560 ด้วยผลงานที่ถือได้ว่า “แป้ก” ทั้งเงินทั้งกล่อง คือภาพยนตร์เรื่อง “โอเวอร์ไซส์...ทลายพุง” แม้จะกู้หน้ากลับมาได้บ้างกับ App War แอปชนแอป เพราะได้ทั้งเงินทั้งกล่อง แม้จะยังพุ่งไปได้ไม่สุดใจของผู้เกี่ยวข้องกับ T MOMENT ก็ตาม

          THE POOL นรก 6 เมตร ก็ดูจะมีชะตากรรมไม่ต่างจากสองเรื่องแรก หากพิจารณาจากหน้าหนัง ผู้ใหญ่ในค่าย T MOMENT เองก็รู้ดี ทว่า การปล่อยให้หนังออกฉาย มองได้อย่างเดียวว่าคือการ “ขับเคลื่อนแบรนด์” ด้วยสินค้าที่หลากหลาย เป็นการซื้ออนาคตนั่นเองครับ