เตือน!!ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกปี 2725

ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีขนาดไม่ใหญ่ไม่โตนัก เส้นผ่าศูนย์กลางแค่ 1,800 ฟุต (ประมาณ 600 เมตร) เท่านั้น แต่หากพุ่งกระทบพื้นโลกเมื่อใด จะก่อให้เกิดคลื่นกระแทกราวกับระเบิดนิวเคลียร์จำนวนหลายล้านลูกระเบิดขึ้นพร้อมกัน ทำให้เป็นวันล้างโลกตามคำทำนายในพระคัมภีร์ของคริสต์ศาสนา

 แรงกระแทกจะทำให้เกิด "อภิสึนามิ" หรือคลื่นสึนามิขนาดสูงหลายร้อยฟุตกวาดล้างพื้นแผ่นดินโลก เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่ออุกกาบาตพุ่งชนโลกที่เม็กซิโก ทำให้เกิดหลุมอุกกาบาต "ชิซูลับ" ที่โด่งดัง นอกจากนั้นยังเชื่อกันด้วยว่าอุกกาบาตเป็นตัวการทำให้ไดโนเสาร์ต้องสูญพันธุ์ไปจากโลกเมื่อกว่า 65 ล้านปีก่อน

 อย่างไรก็ดี ก่อนจะถึงปี 2725 ที่คาดว่าอุกกาบาต 1999 อาร์คิว 36  ซึ่งขณะนี้กำลังโคจรอยู่ด้านหลังดวงอาทิตย์  และจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในปี 2554 จะพุ่งชนโลกตามที่คำนวณไว้หรือไม่ มนุษย์เรายังต้องลุ้นว่าดาวเคราะห์น้อย อะโฟฟิส ที่มีโอกาสชนโลก 1 ใน 250,000 จะพุ่งชนโลกในปี 2579 จริงตามที่นักวิทยาศาสตร์ทำนายไว้หรือไม่

 จากการคำนวณด้วยสูตรคณิตศาสตร์สองสูตรพบว่าโอกาสการพุ่งชนโลกของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อยู่ในระดับต่ำมากจากปัจจุบันจนถึงปี 2603 แต่โอกาสดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าในปี 2623 ซึ่งเป็นช่วงที่ดาวเคราะห์น้อย 1999 อาร์คิว 36 โคจรกลับสู่โลก

 นักวิทยาศาสตร์จัดให้ดาว 1999 อาร์คิว 36 ในกลุ่มเทหวัตถุที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตราย (พีเอชเอ) ที่อาจจะทำอันตรายต่อโลกหากวิถีโคจรเข้ามาใกล้

 ปัจจุบันกล้องโทรทัศน์ 290 แห่งและสถานีเรดาร์สำรวจอวกาศ 13 แห่งกำลังจับจ้องพฤติกรรมของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อยู่ตลอดเวลา เพราะมีความไม่แน่นอนหรือภาวะไร่เสถียรของวงโคจรที่เรียกว่า "ยาคอฟสกี้ เอฟเฟกต์" ซึ่งเป็นชื่อเรียกปรากฏการณ์ของดาวเคราะห์ที่เก็บกักพลังงานที่ได้รับพลังจากดวงอาทิตย์ และมีวงโครจรผิดไปจากเดิมอันเนื่องจากความร้อนที่เกิดขึ้น โดยผู้ค้นพบปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นวิศวกรชาวรัสเซียเมื่อปี 2546 จึงได้ตั้งชื่อปรากฏการณ์ตามชื่อของเขา

 ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาเชื่อว่าการใช้หัวรบนิวเคลียร์ระดมยิงใส่ดาวเคราะห์น้อย 1999 อาร์คิว 36 จะทำให้มันแตกตัว หรือเบี่ยงเบนวิถีโคจรห่างออกไปจากโลกได้ แต่หากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ไม่ปรากฏให้เห็นในปี 2623 ก็มีการคำนวณกันว่าแผนการเบี่ยงเบนวิถีโคจรของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้