'พรรคประชาธิปัตย์' เปิดตัว 14 ผู้สมัคร กทม. 'เฉลิมชัย' โชว์ผลึกกำลังร่วมกัน 2 เจเนอเรชั่น ด้าน 'เอิร์ธ-พงศกร' เผยสาเหตุสำคัญเข้าสังกัดสีฟ้า เพราะ 'อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ'
"พรรคประชาธิปัตย์" เปิดตัวกลุ่มคนรุ่นใหม่ 14 คน ว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. ประกอบด้วย
พงศกร ขวัญเมือง (เอิร์ธ) เขตคลองเตย - วัฒนา
อภิมุข ฉันทวานิช (ออม) เขตบางคอแหลม - ยานนาวา
ศิริภา อินทวิเชียร (แนน) เขตพญาไท - ราชเทวี
ภูเบศร์ อภัยวงศ์ (เบศร์) เขตบางซื่อ - ดุสิต
ธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ (เชง) เขตดอนเมือง
วัทธิกร หรุ่นศิริ (แพท) เขตสายไหม
ประพฤติ ฉัตรประภาชัย (อุ๋ย) เขตบางกะปิ
พันธ์พิสุทธิ์ นุราช (ไมเคิล) เขตบึงกุ่ม
เกศกานดา อินช่วย (เกศ) เขตคลองสามวา
วณิชชา ม่วงศิริ (เจี๊ยบ) เขตบางบอน - หนองแขม
ณัฐิดา เตาเฟ็ส (ดาด้า) เขตหนองจอก
จักรวี วิสุทธิผล (แจ็ค) เขตสวนหลวง
นพ.พลวิทย์ เจริญพงศ์ (โนเกีย) เขตบางกอกน้อย - ตลิ่งชัน
ธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ (วิทย์) เขตจตุจักร
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เปิดรับคนรุ่นใหม่ให้เข้ามามีบทบาท เปิดโอกาสให้มีพื้นที่แสดงความคิดเห็นด้านทางการเมือง นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งพัฒนาการที่ต้องการเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า ด้วยการรวมเอาความสามารถของคนทุกกลุ่ม ทุกรุ่นเข้ามาด้วยกัน มีทั้งรุ่นอาวุโสที่มีประสบการณ์ มีผู้บริหารชุดปัจจุบันนำพาพรรคเดินไปข้างหน้า พร้อมกับสร้างเลือดใหม่ให้สืบสานพรรคต่อไปในอนาคต ก่อนทิ้งท้ายฝากเลือดใหม่ สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 14 คน อนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ คือ อนาคตของ กทม. คืออนาคตของประเทศไทย เริ่มเปลี่ยนแปลงจาก กทม. และขยายไปเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
"ท่านเลือกผู้นำที่เก่ง ที่กล้า ที่เข้มแข็ง ผ่านมาเป็นสิบๆ ปีประเทศไทยยังอยู่ที่เดิม หากท่านเลือกคนที่ซื่อสัตย์ เมื่อประเทศไทยไม่มีโกงกิน ประเทศจะเจริญมากขึ้นกว่านี้ได้ ผมขอฝากประชาธิปัตย์ทุกเขตทุกคน" เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ด้าน เอิร์ธ-พงศกร อดีตโฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสาเหตุตัดสินใจครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมายังมีอีกหลายสิ่งที่ยังอัดอั้นตันใจและไม่สามารถผลักดันได้ด้วยกลไกท้องถิ่น จึงมีความคิดที่จะผลักดันนโยบายสาธารณะผ่านกลไกระดับประเทศ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์มีความผูกพันและเข้าใจพื้นที่ กทม. มาอย่างยาวนาน ผ่านกลไกการเมืองในระดับพื้นที่ทั้ง สข. สก. ผู้ว่าฯ รวมถึงเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ เปิดรับความเห็นและนโยบายคนตัวเล็กๆ และตนไม่ได้ทำเฉพาะกิจ ซึ่งตรงกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่เป็นพรรคที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน อยู่เคียงข้างกับคน กทม. ทั้งหมด แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจครั้งนี้ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นคนที่เคารพมากตั้งแต่เด็ก ก็ได้ปรึกษาพูดคุยกันมาโดยตลอด
เอิร์ธ-พงศกร ยืนยันว่า ไม่มีปัญหากับผู้เป็นพ่ออย่าง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และไม่เกี่ยวกับการวางตัวผู้สมัครของพรรคดังกล่าว ยอมรับว่าคุณพ่อได้ชักชวนแล้วหลายครั้ง แต่ตนได้อธิบายเหตุผลและเข้าใจกัน ไม่ใช่ศัตรู แต่คือการแข่งขันทางการเมืองที่อยากเสนอ แต่ไม่เกี่ยวว่า ตนเป็นลูกของพล.ต.อ.อัศวิน จะเป็นข้อได้เปรียบหรือไม่ เพราะพ่อของตนอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ
"พ่อก็ยังเป็นพ่อ ตนยังรักพ่อเหมือนเดิม และคุณพ่อยังให้คำแนะนำว่า ขอให้ขยันกว่าคนอื่นเพราะเป็นหน้าใหม่ ไม่ได้เป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์สูง เหมือนคนอื่น คุณพ่ออยากให้ประสบความสำเร็จ แต่ท่านยังต้องช่วยพรรครวมไทยสร้างชาติ" เอิร์ธ-พงศกร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง