ข่าว

อดีตที่ปรึกษามองการลอบยิง “ชินโซ อาเบะ” เทียบลอบสังหาร เจเอฟเค

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพื่อนและอดีตที่ปรึกษาใกล้ชิด มองว่าชาวญี่ปุ่นจะจดจำการสูญเสียอดีตนายกฯ ชินโซ อาเบะ แบบเดียวกับการลอบสังหารจอห์น เอฟ เคนเนดี 

 

 

ชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศยังคงรู้สึกช็อกกับการสูญเสียอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ หนึ่งในผู้นำยุคสมัยใหม่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของญี่ปุ่น ในวัย 67 ปี  จากถูกคนร้ายใช้ปืนประดิษฐ์เอง  ลอบยิงจากด้านหลัง ขณะช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงเลือกตั้ง ที่เมืองนารา ทางตะวันตกของประเทศเมื่อวาน (8 ก.ค.)  ประชาชนหลั่งไหลเดินทางนำดอกไม้ไปไว้อาลัยอย่างไม่ขาดสายที่จุดเกิดเหตุ พร้อมสวดมนต์และแสดงความเสียใจ  

 

 

 

 

โทโมฮิโกะ  ทานิกูจิ  เพื่อนสนิทและอดีตที่ปรึกษาพิเศษของอดีตนายกรัฐมตรีอาเบะ กล่าวว่า  ชาวญี่ปุ่นจะจดจำเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ แบบเดียวกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี  แห่งสหรัฐ  ชาวญี่ปุ่นจะพูดถึงและถกหารือยาวนานไปอีกหลายปีข้างหน้า เช่น นาทีที่รับรู้ข่าวในวันนั้นกำลังทำอะไรอยู่  เหมือนกับความรู้สึกช็อกของชาวอเมริกันที่มีต่อการลอบสังหารช็อกโลกเมื่อ 59 ปีก่อน

 

 

(ผู้คนต่อแถวยาว รอวางดอกไม้ไว้อาลัย)

 

 

 “มันคือวันแห่งความเศร้าโศก เสียใจ ไม่อยากเชื่อ และสำหรับผม  โกรธอย่างที่สุด  ผู้คนรู้สึกว่ามันยากมาก ๆ ที่จะยอมรับความจริง” ทานิกูจิกล่าวและเสริมว่า  เขาคิดว่า เหตุร้ายครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์โดด ๆ กระทำโดยคนคนเดียว  กระนั้น เหตุร้ายครั้งเดียวได้คร่าชีวิตการผู้นำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น   

 

อดีตที่ปรึกษามองการลอบยิง “ชินโซ อาเบะ” เทียบลอบสังหาร เจเอฟเค

 

ทานิกูชิ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับอาเบะ ช่วงปี 2556 – 2557 เป็นผู้เขียนสปีชด้านนโยบายต่างประเทศให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงนายอาเบะ ว่าเป็นคนจิตใจดี  อาเบะกับภรรยา ไม่มีลูกของตัวเอง  แต่มีความปรารถนาที่จะส่งมอบญี่ปุ่นให้คนรุ่นต่อไป เป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองและสอดรับอนาคต  “ทันที่ที่คุณได้ผูกมิตรกับเขาแล้ว  คุณจะได้มิตรสหายคนหนึ่งไปตลอดชีวิต” 

 

อดีตที่ปรึกษาฯ กล่าวต่อว่า หลังจากดำรงตำแหน่งสมัยแรกช่วงสั้น ๆ  เพราะติดปัญหาสุขภาพ  อาเบะกลับมานั่งเก้าอี้สมัยที่สอง ในปี 2555 แบบคนใหม่  พร้อมความมุ่งมั่นแรงกล้าที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงให้กับเศรษฐกิจและระเบียบความมั่นคงของชาติ  ซึ่งมีทั้งล้มเหลวและสำเร็จ  

 

ญี่ปุ่นมีสามชาติอำนาจนิวเคลียร์และไม่เป็นประชาธิปไตยรายล้อม   ไม่ว่าจะรัสเซีย เกาหลีเหนือ และจีน  เพื่อดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ จึงจำเป็นมากที่ญี่ปุ่นจะต้องกระชับสัมพันธ์พันธมิตรและหุ้นส่วนที่มีความคิดแบบเดียวกัน อย่างสหรัฐอเมริกา  ซึ่งอาเบะพยายามอย่างมากในการปูทางไว้  และเขาอยากให้สานต่อ

 

ที่มา CNN 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ