"พีระพันธ์ุ" ลา "พลังประชารัฐ" หลังจบค่าโง่ "โฮปเวลล์"

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ได้ทำหนังสือเอกสารการลาออกในการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไปแล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนให้เจ้าหน้าที่ไปยื่นให้กับทางพรรคพลังประชารัฐ และคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยการตัดสินใจลาออกครั้งนี้ ยังไม่ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร แต่เป็นไปตามที่เคยกล่าวไว้ตั้งแต่การเข้ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐว่า จะเข้ามาเพื่อทำโครงสร้างพรรคให้เกิดความเข้มแข็งและขณะนี้ได้จัดทำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงหมดหน้าที่และได้ตัดสินใจลาออก

พีระพันธ์ุระบุว่าหลังจากนี้จะทำหน้าที่ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียวไปก่อน ยังไม่ตัดสินใจไปสมัครหรือเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติตามที่สื่อมวลชนวิเคราะห์ เหมือนเช่นตอนที่ตัดสินใจเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐก็ถูกมองว่าเป็นการสั่งการหรือมอบหมายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้ามามีบทบาทเป็นสายตรงของพล.อ.ประยุทธ์ ในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง

พีระพันธุ์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 ใช้ไม่ได้ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ระบุว่า เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่และให้งดการบังคับคดีเดิมทั้งหมด ที่ให้จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์รวม 2.4 หมื่นล้านบาท รวมดอกเบี้ย ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดมีมติเมื่อวันที่4 มี.ค.2565 ให้รื้อคดีโฮปเวลล์ ที่เดิมรัฐบาลไทยแพ้คดียกเลิกสัญญาไม่เป็นธรรม ต้องควักเงินภาษีไปจ่ายเป็น ‘ค่าโง่’ ให้กับเอกชน 2.4 หมื่นล้านบาท แลกกับเสาตอม่อ ริมถนนวิภาวดี-รังสิต