ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง แจ้งข้อหา "ไฮโซปลาวาฬ" ขับรถประมาท ทำทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ยืนยันไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ หลังซิ่งรถหรูชนแผงกั้นถนนก่อนไฟลุกไหม้วอดทั้งคัน
25 มี.ค.2565 ความคืบหน้ากรณีเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถหรู เบนท์ลีย์ ของ "ไฮโซปลาวาฬ" บริเวณถนนเพชรเกษม โค้งบ้านขนิม ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ สีดำ ไฟไหม้ พบ นายวรสิทธิ อิสสระ อายุ 40 ปี หรือ ไฮโซปลาวาฬ เจ้าของโรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ และมีนายธนันชัย (สงวนนามสกุล) เป็นผู้โดยสาร ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุพบว่า อยู่บริเวณ ถนนเพชรเกษม สายตะกั่วป่า – ท้ายเหมือง ซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง พบแผงกั้นทาง ได้รับความเสียหายและมีร่องรอยเบรคเป็นทางยาว ก่อนที่จะไปถึงจุดที่รถเกิดไฟไหม้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง ได้ลงตรวจที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทำการเก็บหลักฐานและพยานแวดล้อม พร้อม ตรวจสอบวัตถุสิ่งของที่ได้รับความเสียหาย พบราวกั้นทางได้รับความเสียหายมีความยาวประมาณ 30 เมตร โดยช่วงทางโค้งระหว่างน้ำตกขนิม มีร่องรอยเศษชิ้นส่วนของยางรถยนต์ และชิ้นส่วนรถ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แนวรั้วเหล็กของกรมทางหลวงมีรอยถูกชนจนยุบเสียหาย
ส่วนรถหรู เบนท์ลีย์ ที่เกิดเหตุ ทางเจ้าของรถได้ติดต่อบริษัทประกัน ยกรถไปเก็บไว้ที่อู่ในจังหวัดภูเก็ตแล้ว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แต่อย่างใด เพราะเคสนี้ไม่มีคู่กรณี หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โค้งดังกล่าวเป็นโค้งอันตรายมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ตนขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว พบว่ามีอุบัติเหตุ จึงจอดรถและลงดูเหตุการณ์ ซึ่งช่วงแรกไม่ทราบว่าเป็น ไฮโซปลาวาฬ แต่เห็นว่ามีอุบัติเหตุจึงเข้าไปสอบถามเพื่อช่วยเหลือ โดยได้สอบถามถึงอาการของคนขับและผู้โดยสาร ได้คำตอบว่าไม่เป็นอะไรมาก
จากนั้นเห็นว่า คนขับมีอาการลุกลี้ลุกลนเนื่องจากเห็นมีควันขึ้นจากใต้ท้องรถโดยคนขับเข้ามาถามว่า "พี่มีน้ำในรถมั้ย" ซึ่งตนบอกว่ามีน้ำเพียงค่อนขวด จึงแนะนำให้ไปขอน้ำถังที่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ซึ่งเจ้าของรถใช้น้ำสาดเข้าใต้ท้องรถเพื่อดับควัน แต่ทำให้ควันกลับรุนแรงขึ้น ขณะเจ้าของรถกลับไปเอาน้ำ มีเปลวเพลิงขึ้นจากใต้ท้องรถและลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตนเองจึงประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่าย ปภ. ของ อบต.ทุ่งมะพร้าว และ อบต.ท้ายเหมือง เข้าดับไฟจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่สภาพรถคันดังกล่าวเสียหายจากไฟไหม้ทั้งคัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนความเสียหายซึ่งเป็นแนวรั้วของแขวงทางหลวง เสียหายประมาณ 10 เมตร เบื้องต้นประเมินค่าเสียหายประมาณ 10,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง