ข่าว

ศาลอุทธรณ์สั่งกลับให้ศาลอาญาคดีทุจริตฯรับฟ้องข้อหาเพิ่ม "ทวี สอดส่อง"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอุทธรณ์สั่งกลับให้ศาลอาญาคดีทุจริตฯรับฟ้องข้อหาเพิ่ม "ทวี สอดส่อง" กับพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กลั่นเเกล้งให้ "สมคิด บุญถนอม" กับพวกคดีอุ้มฆ่าอัลรูไวลี่ นัดสอบคำให้การเพิ่มเติมกำหนดนัดสืบพยาน 6 พ.ค.นี้

            

 

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

ศาลนัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์  คดี อท.ที่ 114/2562 ระหว่าง พล ต.ท.สมคิด บุญถนอม ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) , พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน  และพ.ต.ท. เบญจพล จันทวรรณ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งหมดตำเเหน่งขณะนั้น รวม3 คน เป็นจำเลยในความผิดต่อหน้าที่ฯ

      โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อ พ.ศ.2552พ.ต.อ. ทวี อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ​ กับพวกรวม 3 คน ปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีพิเศษที่ 4/2547 ได้ร่วมกันสอบสวนดำเนินคดี พล.ต.ท.สมคิด กับ พวก ร่วม 5 คน เป็นผู้ต้องหากล่าวหาร่วมกันฆ่า โมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุ โดยสอบสวน พ.ต.ท. สุวิชชัย หรืออัคควุธ แก้วผลึก เป็นพยาน พร้อมอ้างแหวนทองวัตถุพยาน ของกลาง เป็นพยานหลักฐานใหม่ เพื่อสอบสวนรื้อฟื้นดำเนินคดี พล.ต.ท. สมคิด กับพวก ทั้งที่ไม่มีพยานหลักฐานที่จะรับฟังได้ว่า ผู้ต้องหากับพวกร่วมกันกระทำความผิด อีกทั้งในการสอบสวนพยาน ทั้งที่เป็นจำเลยหลบหนีหมายจับตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอุทธรณ์(จังหวัดมีนบุรี) ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีร่วมกันฆ่านายฉัตรดำรงพรรณ ไชยเฉลิมภัค เชื้อพระวงศ์ลาว โดย มีพฤติการณ์ส่อว่าจูงใจ ต่อรองเพื่อให้พยานกลับคำให้การจากเดิมเป็นพยานบอกเล่าไม่เห็นเหตุการณ์  เปลี่ยนเป็นกลับคำให้การว่าเห็นเหตุการณ์  ขณะที่ผู้ต้องหากับพวกกระทำผิด  พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องพล.ต.ท. สมคิด กับพวกเป็นจำเลย คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.119/2553ข้อหาร่วมกันฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไว

       

ต่อมาศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง และศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ 7615/2561เมื่อวันที่ 22 มี.ค.62  ยกฟ้องพล.ต.ท. สมคิด กับพวกรวม 5 คน 

 

พล.ต.ท.สมคิด จึงนำคดีมาฟ้องพ.ต.อ. ทวี สอดส่องกับพวก รวม 3 คน ในข้อหา ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ ฯ และเป็นเจ้าพนักงาน และพนักงานสอบสวน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อจะแกล้งให้ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องรับโทษในคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ อท.ที่114/2562 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ศาลอาญาคดีทุจริตฯได้มีคำสั่งประทับฟ้องความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฯไว้ 1 ข้อหา และ ยกฟ้องข้อหาเป็น พนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานที่มีอำนาจสืบสวน กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา  โจทก์ยื่นอุทธรณ์ 

 

 

นัดฟังคำสั่งครั้งนี้ พ.ต.อ. ทวี ,พ.ต.อ. สุชาติ และพ.ต.ท. เบญจพล จำเลยทั้ง3 เดินทางมาศาลโดยจำเลยทั้ง3  อยู่ระหว่างการปล่อยชั่วคราวในข้อหาที่ศาลอาญาคดีทุจริต ฯที่มีคำสั่งประทับฟ้องในคดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฯ ไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว 

 

ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ

เห็นว่า พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง จำเลยที่ 1 กับพวกเป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษคดีอุ้มฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย สอบสวนดำเนินคดีผู้ต้องหาโดยนำ พ.ต.ท. สุวิชชัย แก้วผลึก  มาสอบสวนเป็นพยาน มีพฤติการณ์จูงใจ ต่อรองเพื่อให้กลับคำให้การ  และนำพยานไปยื่นคำร้องขออนุญาตศาลสืบพยานก่อนฟ้อง ทั้งที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมายเป็นการเอาเปรียบผู้ต้องหาไม่ให้มีโอกาสต่อสู้คดี ทำให้ได้รับความเสียหาย และกล่าวหาดำเนินคดีทั้งที่ไม่มีพยานหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหากับพวกน่าจะได้กระทำผิดตามข้อหานั้น จึงมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นประทับฟ้อง พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง กับพวกรวม3 คน รวม 4 กระทงความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฯ และเป็น พนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานที่มีอำนาจสืบสวน กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, มาตรา 157และมาตรา 200วรรคสอง ไว้พิจารณาต่อไป

เเละนัดสอบคำให้การจำเลยทั้ง3 เพิ่มเติมและกำหนดนัดสืบพยานในวันที่ 6 พ.ค.65 เวลา 09.00 น.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ