"DSI" สนธิกำลังร่วมกับ "กรมปศุสัตว์" บุกตรวจโรงเย็น ยึด"เนื้อหมู" ลักลอบนำเข้าโยการสำแดงเท็จ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เข้าข่ายกักตุนสินค้า เสี่ยงติดเชื้อโรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ.65 ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ "ดีเอสไอ" และนายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผอ.กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค สั่งการให้ นายวรพจน์ ไม้หอม รอง ผอ.กองปฏิบัติการคดีพิเศษ พร้อมคณะ สนธิกำลังร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่กองสารวัตรและกักกัน "กรมปศุสัตว์" ร่วมบูรณาการเข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจากการสืบสวนหาข่าวได้รับข้อมูลว่า มีการลักลอบนำเข้า"เนื้อสัตว์"จากต่างประเทศเข้ามาโดยไม่รับอนุญาต โดยสำแดงรายการสินค้าประเภทอื่นอันเป็นเท็จ และมีการขนถ่ายโดยรถบรรทุกตู้สินค้าขนาดใหญ่ ออกจากท่าเทียบเรือแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออก ไปเก็บไว้ที่ห้องเย็นดังกล่าว
ผลการตรวจค้นพบกล่องสินค้าต้องสงสัยภายในห้องเย็นหมายเลข 1 สำแดงในใบขนสินค้าเป็น "Frozen Product" ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็น"เนื้อสุกร"ที่ไม่มีเอกสารการนำเข้าจากกรมปศุสัตว์ (ร.7) เอกสารการเคลื่อนย้าย หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติ"โรคระบาดสัตว์" พ.ศ. 2558 จึงได้ทำการอายัดกล่องสินค้าต้องสงสัยไว้ จำนวน 945 กล่อง น้ำหนัก 21,473 กิโลกรัม ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กำชับสั่งการให้"กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค" ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีพื้นที่รับผิดชอบอาชญากรรมพิเศษทั่วประเทศ เร่งปราบปรามเครือข่ายกระบวนการ"กักตุนสินค้า" ประเภท"เนื้อสุกร"เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า เพื่อป้องกันมิให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี อาศัยโอกาสที่สินค้า"เนื้อสุกร"ขาดตลาด มา"กักตุนสินค้า"เพื่อให้มีราคาสูงขึ้น อันเป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชน รวมทั้งการลักลอบนำ"เนื้อสุกร"จากต่างประเทศ ที่มิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรและการตรวจของกรมปศุสัตว์ เข้ามาในราชอาณาจักร อันอาจนำ"เชื้อโรค"มาแพร่ระบาดในประเทศ และกระทบต่อผู้เลี้ยงและผู้ผลิต"เนื้อสุกร"ในประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง