ข่าว

ชาวนากาฬสินธุ์เฮ เงินประกันรายได้ถึงมือแล้ว 3,600 ล้านบาท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชาวนากาฬสินธุ์พอใจได้เงินสองต่อ ทั้งเงินประกันรายได้ และเงินค่าบริหารจัดการฯ ด้านเกษตรจังหวัดเผยภาพรวม รัฐโอนถึงมือชาวนาแล้ว 9 งวด เม็ดเงินกว่า 3,600 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประกอบอาชีพของชาวกาฬสินธุ์ ในช่วงฤดูแล้งและมีสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 พบว่าหลังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว ระบายน้ำมาตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้ในเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว เริ่มลงมือเพาะปลูกข้าวนาปรังกันแล้ว แม้ราคาขายข้าวเปลือกนาปีที่ผ่านมาจะตกต่ำ  เริ่มต้นเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท ทำให้ชาวนาหลายคนถอดใจไม่อยากทำนา เนื่องจากขาดทุน

แต่วันนี้ชาวนากลับมามีความหวังใหม่อีกครั้ง จากการได้รับเงินส่วนต่าง หรือเงินประกันรายได้ รวมทั้งได้รับเงินค่าเก็บเกี่ยวอีกไร่ละ 1,000 บาท เป็นรายได้ 2 ต่อ หลังจากขายข้าวเปลือกขาดทุน 
ชาวนากาฬสินธุ์เฮ เงินประกันรายได้ถึงมือแล้ว 3,600 ล้านบาท

นายพงษ์ศักดิ์ ชินคีรี เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการที่รัฐบาลมอบให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวฤดูกาลผลิต 2564/65 มี 2 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องปีที่ 3 คือโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเงินส่วนต่าง และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเงินค่าเก็บเกี่ยว ซึ่งมีเกษตรกรขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวไว้และผ่านการรับรอง จำนวน 153,884 ครัวเรือน 265,859 แปลง เนื้อที่ 1,558,244.46 ไร่ ผ่านการรับรองและได้รับการช่วยเหลือ ตัดยอดล่าสุด 9 งวด (4 ม.ค.65) จำนวน 153,544 ครัวเรือน 264,997 แปลง เนื้อที่ 1,553,351.34 ไร่ 

เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวต่อไปว่า ผลการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2,272,155,530 บาท ส่วนผลการโอนเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำนวน 1,406,498,618 บาท รวมจำนวน 3,678,654,188 ล้านบาท ยังเหลือที่จะโอนให้อีก 2 งวด รวมที่รัฐบาลจะจัดโอนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั้ง 2 โครงการ ทั้งหมด 11 งวด ทั้งนี้เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในการลดต้นทุนการผลิต มีเงินใช้จ่ายในการอุปโภค บริโภคในครัวเรือน ซึ่งผลการดำเนินการที่ผ่านมาเกษตรกรได้รับความพึงพอใจ 100%
ชาวนากาฬสินธุ์เฮ เงินประกันรายได้ถึงมือแล้ว 3,600 ล้านบาท

ด้าน นายประเสริฐ ภูสิงหา อายุ 55 ปี ชาวนาบ้านหนองบัวหน่วย หมู่ 16 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเองทำนา 19 ไร่ ขายผลผลิตข้าวนาปีได้กิโลกรัมละ 6 บาท ซึ่งขาดทุน เนื่องจากค่าปุ๋ยเคมี ค่าเก็บเกี่ยวสูงมาก จนคิดว่าฤดูแล้งนี้ไม่อยากจะทำนาปรัง เพราะทำไปก็ขาดทุนซ้ำซาก แต่พอรัฐบาลจัดเงินส่วนต่างและค่าเก็บเกี่ยวให้ โดยโอนผ่าน ธ.ก.ส. ครอบครัวตนเองได้เกือบ  30,000 บาท  ทำให้พอมีเงินใช้หนี้ปุ๋ยเคมี ค่ารถเกี่ยวข้าว และมีเหลือพอใช้จ่ายในครัวเรือนบ้าง จึงมีกำลังใจที่จะทำนาต่อไป ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลมีโครงการดี ๆ แบบนี้ต่อเนื่องตลอดไป 



ขณะที่ นายวิจิตร พิเมย อายุ 60 ปี ชาวนาบ้านโคกเครือ ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เพิ่งนำข้าวเปลือกนาปี ซึ่งเป็นข้าวเหนียว กข.6 มาขาย เพราะที่ผ่านมาราคารับซื้อตกต่ำเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท หรือสูงสุดไม่เกิน 8 บาท พอทราบว่าช่วงนี้แหล่งรับซื้อปรับราคาสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 10 บาท จึงนำมาขาย ขอขอบคุณรัฐบาลที่มีโครงการให้เงินส่วนต่างและค่าเก็บเกี่ยว ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นเงินที่ฝากไว้ แก้ขัดสนในยามฝืดเคือง บรรเทาความเดือดร้อนด้านภาระค่าใช้จ่ายในช่วงสถานการณ์โควิด-19  และพอจะลงมือทำนาปรัง ก็จะได้มีเงินเป็นทุนซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ค่ารถไถและค่าปุ๋ยเคมีต่อไป
ชาวนากาฬสินธุ์เฮ เงินประกันรายได้ถึงมือแล้ว 3,600 ล้านบาท
(ภาพ-ข่าว จักรพงษ์ ระวิวรรณ / ชมพิศ ปิ่นเมือง) 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ