ข่าว

วันเด็กแห่งชาติ "นายกฯลุงตู่" โพสต์ลูกหลานไทยเป็นอนาคตของชาติ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นายกฯลุงตู่" พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา โพสต์เฟซบุ๊ก เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ถึงลูกหลานไทยอนาคตของชาติและประชาชน เน้นย้ำการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมตั้งแต่วัยเยาว์ จะได้มาช่วยกันพลิกโฉมขับเคลื่อนประเทศชาติในวันข้างหน้า

"นายกฯลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า

 

เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 ผมได้มอบคำขวัญว่า รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม โดยคาดหวังให้เยาวชนไทยมีความคิดที่สร้างสรรค์ รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลในศตวรรษที่ 21  รู้หน้าที่และมีความรับผิดชอบ ทั้งต่อตนเอง สังคมประเทศชาติ และสังคมโลก ควบคู่กับการมีคุณธรรมและจริยธรรมอันดีเพื่ออยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างมีความสุข

 

พร้อมทั้งยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเติบใหญ่เป็นพลเมืองดีของบ้านเมือง เป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่าในการขับเคลื่อนประเทศให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

 

สำหรับเยาวชนนั้น การศึกษา เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่ตัวผมเองให้ความสำคัญควบคู่กับเรื่องเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนไทยทุกคน โดยสิ่งที่ผมถือเป็นภารกิจสำคัญของผมและรัฐบาล ที่พยายามจะทำให้สำเร็จให้มากที่สุดในเวลาที่เหลืออยู่

 

คือการให้ความเสมอภาคทางโอกาส โดยผมตั้งเป้าหมายว่า เด็กไทยทุกคน ต้องได้รับโอกาสในการศึกษา การพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ได้มากที่สุด จะต้องไม่มีเด็กไทย หรือเด็กคนไหนที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ถูกปิดกั้น หรือจำกัดโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพียงเพราะฐานะ ถิ่นกำเนิด หรือปัจจัยส่วนบุคคลอื่นๆ ทุกคนต้อง ได้รับสิทธิในโอกาส ที่เท่าเทียมกันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้เตรียมความพร้อมสำหรับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ ที่ทรงคุณค่าของประเทศในหลาย ๆ ด้านที่สำคัญ ได้แก่

 

1.การสร้างกองทุนต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือทางการศึกษา นอกจากการแก้ปัญหากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์แล้ว รัฐบาลยังได้ผลักดันให้เกิดกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) รวมทั้งสร้างกลไกในการทำงานจนสามารถช่วยเหลือเยาวชนกลุ่มเปราะบางนับล้านราย ไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา สร้างความเสมอภาคในสังคมไทยกับเด็กไทย ที่แม้จะเลือกเกิดไม่ได้ แต่การศึกษาจะยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับทุกคนได้

2. การสร้างโอกาสงานและอาชีพแห่งอนาคต เช่น  เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) และเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ที่ไม่เพียงจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ "นวัตกร" เพื่อให้เด็กไทยในวันนี้

 

พร้อมที่ก้าวไปสู่เยาวชนยุคศตวรรษที่ 21 แล้ว ยังเป็นพื้นที่นัดพบของนักการศึกษา นักวิจัย นักลงทุน และผู้ประกอบการ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีทีเดิมไปสู่อุตสาหกรรมดิจิทัลยุคใหม่ (New S-Curve Digital Industry)ที่เป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ ประเทศไทย 4.0 อีกทั้งจะเป็นโมเดลการพัฒนาของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) อีก 10 แห่ง ที่จะกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศอีกด้วย

 

3. การวางเครือข่าย เน็ตประชารัฐ ให้ครบทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อให้เด็ก ๆ มีโอกาสอย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงองค์ความรู้จากทั่วโลก เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ค้นคว้า ศึกษา วิจัย รองรับการศึกษาทางไกล ทั้ง Online, On-site และ On demand สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น

 

นอกจากนี้ ยังมีโครงการอีกมากที่ผมและรัฐบาลได้วางแนวทางมอบหมายหน่วยงานต่างๆ ที่จะช่วยยกระดับ สร้างโอกาส ผลิตเยาวชนไทยให้มีอนาคตที่ดี ไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาประเทศอย่างรอบด้านและยั่งยืน ทั้งด้าน "STEM" (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์) แต่ไม่ละเลยด้าน ศิลปะ (Art) วัฒนธรรมไทย ความคิดสร้างสรรค์

 

ซึ่งรวมเป็นแนวทาง STEAM รวมไปถึงโครงการที่ปลูกฝังแนวคิดการเป็น ผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Spirit) ในอาชีพแห่งอนาคตต่าง ๆ มากมาย ที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมตั้งแต่วัยเยาว์ จะได้มาช่วยกันพลิกโฉม ขับเคลื่อนประเทศชาติในวันข้างหน้ากันต่อไปครับ
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ