ข่าว

สภาเผยผลสอบ ชี้บิ๊กตู่บริสุทธิ์ ปมจ่ายเงินให้ส.ส.โหวตผ่านศึกซักฟอกรัฐบาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“หมอสุกิจ” เผยผลสอบกรณี “วิสาร” กล่าวหา "บิ๊กตู่" แจกเงิน ส.ส.ให้ลงคะแนนไว้วางใจ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 64 ชี้ไม่มีพยานเพียงพอว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง

วันนี้ (5 ม.ค.) นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายสัตยา อรุณธารี ที่ปรึกษาคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร และว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันที่ 2 ก.ย.64 ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ ปรากฏว่า ไม่มีประจักษ์พยาน หรือไม่มีพยานแวดล้อมเพียงพอที่จะฟังได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จ่ายเงินให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ลงคะแนนไว้วางใจให้กับนายกรัฐมนตรี ภายในอาคารรัฐสภา ในคราวการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.ย.64 ตามที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อคราวดังกล่าว นายวิสาร ได้กล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จ่ายเงินให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 5 ล้านบาท บริเวณห้องนายกรัฐมนตรี ชั้น 3  อาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นการกระทำนี้ไม่เหมาะสม ส่อไปในทางทุจริต เพื่อต้องการอยู่ในตำแหน่งต่อ  ต่อมา นายชวน ได้มีคำสั่งสภาผู้แทนราษฎรที่ 22/2564 ลงวันที่ 4 ก.ย.64 เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยมีคณะกรรมการจำนวน 5 ท่าน ได้แก่ 1.นางพรพิศ เพชรเจริญ เป็นประธานกรรมการ 2.นายสัตยา อรุณธารี เป็นกรรมการ 3.ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เป็นกรรมการ 4.นายกิตติพศ กำเนิดฤทธิ์ เป็นกรรมการและเลขานุการ 5.นายศิลาชัย บวรกสิณธรรม เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 

กำหนดระยะเวลาในการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งต่อมาคณะกรรมการฯ ได้ขอขยายระยะเวลาจำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 คณะกรรมการได้ส่งรายงานผลการตรวจสอบต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตามที่ปรากฏในรายงานที่ส่งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีดังนี้


1. เชิญ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นบุคคลซึ่งได้อภิปรายให้ข้อมูล ซึ่งได้มาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ก.ย.64 
2. ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามาภายในอาคารรัฐสภา การเข้าปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี บริเวณชั้น 3 อาคารรัฐสภา ของนายกรัฐมนตรีและผู้ติดตามนายกรัฐมนตรี
3. ตรวจสอบการเข้าพบนายกรัฐมนตรี ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ณ ห้องรับรองนายกรัฐมนตรี ชั้น 3 อาคารรัฐสภา ในช่วงเวลาที่มีการกล่าวอ้างจากการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในที่ประชุมเมื่อวันที่ 2 ก.ย.64
4. เชิญบุคคลที่จะเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบเข้าให้ข้อมูล นอกจาก นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ แล้วยังมีบุคคลอื่น ๆ ที่ทางคณะกรรมการเชิญมาให้ข้อมูลอีกจำนวน 10 คน ซึ่งมาจากทั้งฝ่ายผู้กล่าวหา ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา และฝ่ายที่เป็นกลาง 
5. คณะกรรมการได้รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดจากสถานที่ต่าง ๆ ภายในอาคารรัฐสภา เพื่อประกอบการตรวจสอบ
6. พิจารณาตรวจสอบและวิเคราะห์ว่า จากข้อมูลและพยานหลักฐานที่คณะกรรมการฯ แสวงหาและรวบรวมกรณีมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้หรือไม่ว่า นายกรัฐมนตรีจ่ายเงินให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ณ ห้องรับรองนายกรัฐมนตรี ชั้น 3 อาคารรัฐสภา หรือมีพยานหลักฐานใดที่สามารถสนับสนุนหรือฟังได้ว่า มีการจ่ายเงินให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวภายในบริเวณอาคารรัฐสภา

 

นพ.สุกิจ กล่าวว่า บัดนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว จึงขอเสนอความเห็นกรณีดังกล่าวว่าจากพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้แสวงหารวบรวมและตรวจสอบ ไม่มีประจักษ์พยาน หรือไม่มีพยานแวดล้อมเพียงพอที่จะฟังได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้จ่ายเงินให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ลงคะแนนไว้วางใจให้กับนายกรัฐมนตรี ภายในอาคารรัฐสภา ในคราวการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันพฤหัสที่ 2 ก.ย.64 ตามที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ