ข่าว

ขานรับนโยบายลดโลกร้อนจากเวที COP26 ผุด "นวัตกรรม" แก้ปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ขานรับนโยบายลดโลกร้อนจากเวที COP26 NIA ผุด "นวัตกรรม" แก้ปัญหาสาพอาการแปรปรวนพร้อมหนุนประเทศไทยแก้วิกฤตทางสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยี

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)  เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นอีกหนึ่งวิกฤตใหญ่  โดยที่ผ่านมา NIA ตระหนักถึงความสำคัญของการนำนวัตกรรมเข้าไปเป็นเครื่องมือช่วยบรรเทาปัญหาและผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าว โดยจากประเด็นการหารือใน COP25 (ปี ค.ศ. 2019) ที่มุ่งเน้นความพยายามในการหาวิธีนำความตกลงปารีส (ปี ค.ศ. 2015) ไปปฏิบัติจริงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และในขณะเดียวกันกำหนดเป้าหมายที่สูงขึ้นไว้ว่าจะพยายามรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้น้อยลงไปอีกจนถึงต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส โดยให้แต่ละประเทศจัดทำแผนการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ยกระดับความท้าทายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังต้องศึกษาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และนำมาปรับใช้เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน 

ดร.พันธุ์อาจ กล่าวต่อว่า "นวัตกรรม" ถือเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสภาวะโลกร้อน ขยะพลาสติก ฝุ่น PM 2.5 รวมถึงภัยธรรมชาติอย่างไฟป่า น้ำท่วม น้ำแล้ง ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นผลพวงที่เกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น NIA จึงเร่งสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคมที่สามารถรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ และเป้าหมายที่ 13 การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม

 

สำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนเป้าหมายพลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ จะเน้นส่งเสริมพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ ชีวมวล และขยะ ซึ่งมีตัวอย่างผลงานนวัตกรรม ได้แก่

1. "Neo Solar : ระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรบนพื้นที่สูง" โดยใช้แหล่งพลังงานจากโซลาร์เซล์แบบลอยน้ำที่สามารถปั๊มน้ำส่งขึ้นไปบนบ่อน้ำที่จุดสูงสุด มีระบบควบคุมการปล่อยจ่ายนํ้าเข้าสู่บ่อพักน้ำ เและระบบการควบคุมระบบสูบและกระจายน้ำไปยังบ่อน้ำตามจุดต่างๆ เพื่อปล่อยจ่ายน้ำไปยังแปลงเกษตรได้โดยไม่ต้องคอยขับรถขึ้นดอยไปปิดเปิดทุกครั้ง 

 

2. ระบบผลิตและส่งจ่ายก๊าซชีวภาพจากฟาร์มสุกรสำหรับชุมชนหนองมะโมง  เพื่อสร้างและติดตั้งระบบผลิตและส่งจ่ายก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียฟารม์สุกรที่ผ่านการบำบัดแล้ว ส่งจ่ายให้แก่ชุมชนตำบลหนองมะโมงสำหรับเป็นก๊าซหุงต้มในวัด โรงเรียน และครัวเรือนของชุมชนหมู่ที่ 4 บ้านหนองตะขบ รวมทั้งสิ้น 40 ครัวเรือน รวมถึงเป็นต้นแบบการพัฒนาพลังงานทดแทนระดับชุมชนระดับภูมิภาคด้วยระบบผลิตและส่งจ่ายก๊าซชีวภาพอีกด้วย 

สำหรับในเป้าหมายการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะเน้นการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ไฟป่า ภัยแล้ง พายุ คลื่นกัดเซาะชายฝั่ง โดยมีตัวอย่างผลงานนวัตกรรม ได้แก่
1. Smoke Watch: แอปพลิเคชันแจ้งเตือนและเฝ้าระวังไฟป่าจากการเผาในที่โล่งสำหรับพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยอาศัยการทำงานร่วมกันของหน่วยงานในจังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดกระบวนการดับไฟขนาดเล็กไม่ให้เกิดการลุกลาม และลดปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 และ

 

2. Dr. Barrier: แอปพลิเคชันช่วยตัดสินใจในการชิงเผาเพื่อลดปัญหาไฟป่า” โดยประเมินความเสี่ยงจากปริมาณการสะสมของเชื้อเพลิง สภาพอากาศ และสภาพภูมิประเทศ ซึ่งดำเนินการตามแนวทางของกรมอุทยานแห่งชาติ คือ สามารถเผาได้ 1 ตารางกิโลเมตรต่อครั้ง จากการนำร่องในพื้นที่อุทยานตำบลผาเลือด จังหวัดอุตรดิตถ์ พบว่าช่วยลดอัตราการเกิดไฟไหม้ระดับรุนแรงได้มากกว่าร้อยละ 60-70

 

NIA ให้การสนับสนุนผ่านนวัตกรรมเพื่อสังคม เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่จะเห็นได้ว่ายังมีโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอีกมากมายเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ ในหลากหลายประเด็นของโลก เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็น “ประเทศแห่งนวัตกรรม” โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการขับเคลื่อนนวัตกรรมประเทศไทยให้ก้าวสู่อันดับ 1 ใน 30 ของประเทศที่มีความสามารถด้านนวัตกรรมของโลก ภายในปี 2573 หรือในอีก 10 ปีข้างหน้า

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ