นกเค้ายักษ์ ที่ไม่เคยพบเห็นในป่าฝนแอฟริกาเป็นเวลา 150 ปี ถูกนักวิทยาศาสตร์อังกฤษบันทึกภาพในป่าได้เป็นครั้งแรก จุดความหวังดำรงเผ่าพันธุ์
ภาพ Dr.Rob William
ดร.โจเซฟ โทเบียส แห่งภาควิชา Life Sciences ที่อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน และ ดร. รอเบิร์ต วิลเลียมส์ นักนิเวศวิทยาอิสระ สามารถบันทึกภาพนกเค้ายักษ์ “เชลลียส์ อีเกิล” (Shelley’s Eagle Owl) ที่ป่าฝน Atewa ประเทศกานา หลังจากไม่เคยพบเห็นในป่าฝนแอฟริกาแบบที่สามารถยืนยันได้เป็นเวลา 150 ปี โดยทั้งสองพบนกเค้ายักษ์ชนิดนี้ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา แม้มองเห็นเพียง 10-15 วินาทีก่อนนกบินหนีไป แต่ก็สามารถเก็บภาพได้มากพอที่จะระบุชนิด ด้วยขนาดใหญ่โต ตาสีดำโดดเด่น จงอยปากสีเหลือง
ดร.โทเบียส กล่าวว่า มันตัวใหญ่มากจนตอนแรกคิดว่าเป็นนกอินทรี โชคดีว่ามันเกาะกิ่งไม้เตี้ย ๆ พอยกกล่องส่องขึ้นไปก็ต้องตกตะลึง ไม่มีนกฮูกชนิดไหนในป่าฝนแอฟริกาที่ใหญ่ขนาดนั้น
(ภาพวาดของ John Gerrard Keulemans )
การพบเห็นแบบมีการบันทึกไว้ครั้งหลังสุดมีขึ้นในปี 1872 โดย ริชาร์ด เบาวด์เลอร์ ชาร์ป ภัณฑารักษ์แผนกปักษี พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ เคยได้รับนกฮูกยักษ์ตัวหนึ่งจากพรานในกานา และได้บรรยายลักษณะไว้ นับแต่นั้นมา มีรายงานพบเห็นในกานาแบบไม่ยืนยันเป็นครั้งคราว ในแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก ภาพถ่ายที่มีอยู่ เป็นภาพนกฮูกในกรงที่สวนสัตว์แอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม เมื่อปี 2518 และภาพมัว ๆ จากคองโกในปี 2548 ที่ไม่อาจยืนยันชนิดได้
นกฮูก เชลลีส์ อีเกิล ถูกขึ้นบัญชีเสี่ยงสูญพันธุ์อย่างเป็นทางการ ปัจจุบัน มีจำนวนเหลืออยู่ไม่กี่พันตัว ขนาดของนก อาจสูงได้ถึง 53 – 61 ซม. หนัก 1.2 กก. ความกว้างปีกสองข้าง 40-50 ซม.
ดร.เนทานเนียล อันนอร์บาห์ จากมหาวิทยาลัยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในกานา กล่าวว่า นี่เป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้น และประหลาดใจมากขึ้นอีก เมื่อเราเพียรหานกลึกลับนี้มานานหลายปีในพื้นที่ตะวันตก กลับพบในป่าทางตะวันออก
นักวิทยาศาสตร์หวังว่า การค้นพบนกเค้าหายากใกล้สูญพันธุ์ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมความพยายามอนุรักษ์ป่า Atewa หนึ่งในผืนป่าสุดท้ายในกานา ที่กำลังถูกคุกคามจากการตัดไม้ทำลายป่า การล่าสัตว์และเหมืองบ็อกไซต์ที่ใช้ในการผลิตอลูมิเนียม
ปัจจุบัน กลุ่ม 'Friends of Atewa' กำลังเคลื่อนไหวเรียกร้องให้กำหนดพื้นที่ป่า Atewa เป็นอุทยานแห่งชาติ เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะได้รับการคุ้มครอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง