"โค้ชเช" ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ และ การยื่นเรื่องขอสัญชาติไทย
เป็นที่ทราบกันดีว่าทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ประเดิมเหรียญทองแรกใน มหกรรมโอลิมปิก "โตเกียว2020" และ เป็นเหรียญทองเหรียญแรกในกีฬาเทควันโด ที่สามารถคว้าได้ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ จากการคว้าเหรียญทอง ครั้งนี้ของ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และความสำเร็จของผู้ฝึกสอนที่ชื่อว่า "โค้ชเช"
ตลอดระยะเวลากว่า 19 ปีในการเข้ามาคุมทัพนักกีฬาเทควันโดไทยของ"ชเว ย็อง-ซ็อก" หรือ "โค้ชเช" เกิดวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2517 อายุ 47 ปี ที่เมืองซองนัม ประเทศเกาหลีใต้ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงมากมาย จากที่ไทยเป็นชาติที่ไม่มีแม้แต่คนรู้จักในวงการเทควันโด แต่ในปัจจุบันกลับเป็นชาติที่ใครๆก็ต่างยกย่องและถูกวางเป็นตัวเต็งในทุกรายการ และล่าสุด น้อง "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ
"โค้ชเช" เริ่มเป็นโค้ชอย่างเป็นทางการให้กับเทควันโดทีมชาติบาห์เรนในช่วงปี พ.ศ. 2543-2545 ต่อมาสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยได้ติดต่อสหพันธ์เทควันโดสากล เพื่อจัดหาโค้ชมาทดแทนโค้ชเดิมที่ลาออกไป "โค้ชเช" จึงได้รับคัดเลือกให้มาเป็นโค้ชให้นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยจนถึงปัจจุบัน โดยเข้ามาทำหน้าที่เป็นโค้ชให้นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2545 ด้วยความคุ้นเคยและอัธยาศัยอันดีต่อนักกีฬาและทีมผู้ฝึกสอน นักกีฬาทุกคนจึงต่างเรียกโค้ช ชเว ย็อง-ซ็อก ว่า "โค้ชเช"
หลังจบการแข่งขัน ทั้ง "น้องเทนนิส" และ "โค้ชเช" ต่างวิ่งมากอดกันด้วยความดีใจอย่างสุดขีดด้วยความดีใจ ที่สามารถบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่คว้าเหรียญทองเหรียญแรกให้กับวงการเทควันโดได้สำเร็จ
ซึ่งปัจจุบัน กระทรวงมหาดไทย โดย "นายธนาคม จงจิระ" อธิบดีกรมการปกครอง เผยทันทีที่สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ยื่นเรื่องขอสัญชาติไทยให้ "โค้ชเช" หรือ มร. เช ยอง ซอก ทางกรมการปกครองก็พร้อมพิจารณาโดยด่วน ซึ่งไม่น่าติดปัญหาอะไร เนื่องจากเจ้าตัวได้ตัดสินใจสละสัญชาติเกาหลีใต้เรียบร้อย จึงไม่มีข้อติดขัดตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 รวมทั้งได้สร้างคุณงามความดีและชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ "โค้ชเช" ซึ่งอยู่เมืองไทยมากว่า 20 ปี ได้ยกระดับวงการเทควันโดไทยให้ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของโลก นับเฉพาะผลงานในโอลิมปิก เกมส์ 5 สมัย สามารถกวาดรางวัลได้ดังนี้
"เยาวภา บุรพลชัย" เหรียญทองแดง รุ่น 49 กิโลกรัม ในโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่ประเทศกรีซ
"บุตรี เผือดผ่อง" เหรียญเงิน รุ่น 49 กิโลกรัม ในโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่ประเทศจีน
"ชนาธิป ซ้อนขำ" เหรียญทองแดง รุ่น 49 กิโลกรัม ในโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ประเทศอังกฤษ
"เทวินทร์ หาญปราบ" เหรียญเงินรุ่น 58 กิโลกรัม ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล
"พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ" เหรียญทองแดง รุ่น 49 กิโลกรัม ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล
และ "พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ" คว้าเหรียญทองเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ของไทย รุ่น 49 กิโลกรัม ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศ ญี่ปุ่น
CREDIT PHOTO : กองประชาสัมพันธ์ กกท.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง