"น้องเทนนิส"มีเฮ หน่วยงานจ่ออัดฉีด 13 ล้าน

 

 

 

"เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” นักเทควันโดทีมชาติไทย โดยเป็นคนไทยคนแรก ในทัวร์นาเมนต์ โอลิมปิก  "โตเกียว2020" ที่ทำผลงานคว้าเหรียญทอง สร้างชื่อให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย

 

"เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” นักเทควันโดสาวไทย สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ "โตเกียว2020" จะได้รับเงินอัดฉีดเบื้องต้น จากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ 12 ล้านบาท และจากสหพันธ์สมาคมกีฬาแห่งชาติร่วมกับชมรมกอล์ฟหลักสูตรสมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร 1 ล้านบาท รวม 13 ล้านบาท ยังไม่มีรวมจากหน่วยงานและสปอนเซอร์อื่นๆส่วนคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ กำหนดให้เงินรางวัลนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลจากกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เป็นรายเดือน รวมเวลา 20 ปี เหรียญทอง เดือนละ 12,000 บาท เหรียญเงิน 10,000 บาท

 

 

ทั้งนี้ “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ (ฟอนซา)  ขอแสดงความยินดีกับ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดหญิงไทย ที่คว้าเหรียญทองแรกในโอลิมปิก โตเกียว 2020

และ ส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทย คว้าชัยมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 โดยพร้อมที่จะมอบรางวัลให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ที่ได้รับเหรียญทอง จากโตเกียวเกมส์ครั้งนี้ "เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท" 

ทั้งนี้ เทควันโดหญิงทีมชาติไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าทองแรกในโอลิมปิก "โตเกียว2020"  มีโอกาสที่จะได้รับเงินฉีดจากการทำผลงานครั้งนี้ร่วม 13 ล้านบาท  ขณะที่ปี 2016 ได้ไป 20 ล้านบาท จากการทำผลงานของ "เทม เทวินทร์ หาญปราบ" เหรียญเงิน รุ่น 58 กิโลกรัมชาย และ "เทนนิส พาณิภัค พัฒนกิจ" เหรียญทองแดง จากรุ่น 48 กิโลกรัมหญิง

 

อย่างไรก็ตาม "พาณิภัค"และทีมเทควันโดไทย จะเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น คืนวันที่ 25 กรกฎาคม มีกำหนดถึงสนามบินจังหวัดภูเก็ต เข้าโครงการภูเก็ต แซนบ็อกซ์ วันที่ 26 กรกฎาคม ด้วยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ 726 เวลา 09.25 น.

 

สำหรับผลงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ครั้งนี้ "เทนนิส" จอมเตะอันดับ 1 ของโลก วัย 23 ปี ซึ่งได้บายในรอบแรก มาประเดิมเตะรอบ 16 คนสุดท้าย ชนะ "อาบิแชค เซมเบิร์ก" จาก อิสราเอล แบบเอาท์สกอร์29-5 ในยกที่ 2 จากนั้น รอบก่อนรองชนะเลิศ ชนะ "ธี คิม ตรวง" จากเวียดนาม 20-11 และรอบรองชนะเลิศ พาณิภัค ชนะ "ยามาดะ มิยู" จากญี่ปุ่น 34-12 คะแนน ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศและคว้าเหรียญเงินแน่นอนแล้ว

เกมชิงเหรียญทอง "พาณิภัค" ดวลกับ "เอเดรียน่า เซเรโซ่ อิเกลเซียส" สาวน้อยจากสเปนวัยแค่ 17 ปี ยกแรก สาวกระทิงดุเครื่องร้อนเตะทำแต้มนำไปก่อน 4-2 ยกที่ 2 พาณิภัคตามเอาคืนด้วยการเตะศรีษะ พลิกเกมแซงขึ้นมานำบ้าง 9-6 ยกสุดท้าย เอเดรียน่าพยายามทำแต้ม และมาแซง 10-9 แต่ใน 5 วินาทีสุดท้าย พาณิภัค เตะ 2 แต้ม พลิกกลับมาชนะไปอย่างตื่นเต้น 11-10 คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ

 

 

CREDIT PHOTO : การกีฬาแห่งประเทศไทย