ข่าว

เช็กอาการ "ภาวะสมองล้า" กับสาเหตุที่เกิด และวิธีรักษา

เช็กอาการ "ภาวะสมองล้า" กับสาเหตุที่เกิด และวิธีรักษา

09 ก.ค. 2564

เมื่อ "สมอง" ถูกใช้งานอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้ระบบประสาทเสียสมดุล จนเกิด "ภาวะสมองล้า" เช็กเลยอาการที่ต้องสังเกตมีอะไรบ้าง

เมื่อ "สมอง" ถูกใช้งานอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้ระบบประสาทเสียสมดุล จนเกิด "ภาวะสมองล้า" (Brain Fog Syndrome) หากเป็นบ่อยอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

 

 

ภาวะสมองล้า (Brain Fog Syndrome) คือ ภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัวจากการที่สมองถูกใช้งานอย่างหนักเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจเกิดจากความเร่งรีบที่จะทำงานให้เสร็จ การพักผ่อนน้อย หรือการทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ทำให้สารสื่อประสาทในสมองซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ของระบบประสาทเสียสมดุล ประสิทธิภาพการทำงานของสมองจึงแย่ลง หากเกิดบ่อยครั้งจะกลายเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคกระเพาะ, โรคอ้วน, ภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ, โรคเบาหวาน ฯลฯ

 

-สาเหตุของภาวะสมองล้า คือ คลื่นแม่เหล็ก จากการใช้งานคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บแล็ตมากเกินไป รบกวนการหลั่งสารสื่อประสาทในสมอง

-ความเครียด ทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เกิดอาการมึนงง ความจำแย่ลง

-นอนดึก นอนไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย

-ขาดสารอาหาร อาทิ กรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ 

-สารพิษในชีวิตประจำวัน เช่น มลภาวะ สารเคมี โลหะหนัก ยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในอากาศ น้ำ และอาหาร


อาการเตือนของ "ภาวะสมองล้า" มีดังนี้ นอนไม่หลับ ปวดศีรษะเรื้อรัง สายตาอ่อนเพลีย จัดการหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ไม่ดีเหมือนก่อน อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ขี้หลงขี้ลืม ความจำระยะสั้นแย่ลง สมาธิในการทำงานลดลง ความคิดสร้างสรรค์ที่เคยมีหายไป ไม่สดชื่น

 

 

สำหรับวิธีรักษาภาวะสมองล้า คือ ควบคุมการใช้เทคโนโลยีในเวลาที่เหมาะสม ไม่นานจนเกินไปหรือตลอดทั้งวัน ควรหยุดพักบ้างเป็นระยะ คิดบวก มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ไม่เครียด ทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยบำรุงสมอง
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง และควรนอนในเวลา 4 ทุ่มไม่เกินเที่ยงคืน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะช่วยให้สุขภาพสมองแข็งแรง เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และไม่ดื่มกาแฟในช่วงเย็นเพราะอาจรบกวนการนอนหลับ ท่องเที่ยวธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายและได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ช่วยเติมพลังชีวิตได้ดี

 

ส่วนสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองก็คือ น้ำมันปลา (Fish Oil), สารสกัดจากแปะก๊วย (Ginkgo Biloba Extract), โคลีน (Choline Bitartrate), สารสกัดจมูกข้าว (Gamma Oryzanol), ธีอะนีน (L – Theanine), ฟอสฟาติดิลซีรีน (Phosphatidylserine), อิโนซิทอล (Inositol), สารสกัดจากโสม (Ginseng Extract), ซอยเลซิทิน (Soy Lecithin), แอลคาร์นิทีน แอลทาร์เทรต (L-Carnitine L-Tartrate), วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินบี

 

ข้อมูลจาก bangkokhospital