ข่าว

"สมุย-พะงัน-เกาะเต่า"เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว รอ ครม.เคาะวันนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สมุย-พะงัน-เกาะเต่า"เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว รอ ครม.เคาะวันนี้ ตามแนวทางเปิดประเทศโชว์เมืองไทยเฟส 2 ตามติด "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" ที่เริ่ม 1 ก.ค.นี้ โดยทั้ง 3 เกาะ คาดเปิด 15 ก.ค.นี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 22 มิ.ย.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอแนวทางการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ผ่านการทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และจังหวัดสุราษฎร์ธานี(เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า)เริ่มวันที่ 15 ก.ค. 64 ให้ที่ประชุมเห็นชอบ ล่าสุดทางจังหวัดก็ได้เตรียมความพร้อมแล้ว ถือเป็นไปตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีประกาศเอาไว้ว่าจะเปิดประเทศใน 120 วัน

ส่วนในจังหวัดอื่นๆที่มีความพร้อม คือมีการฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ครบ 70% แล้ว ก็ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ไปหารือกับทาง ศบค.ชุดเล็ก และผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเพื่อทำการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่อจากภูเก็ตต่อไป

ทั้งนี้เมื่อวันที่  16 มิ.ย. ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ได้แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจโดยนายกฯตั้งเป้าประเทศไทยต้องเปิดภายใน120 วันโดยชี้ให้เห็นว่าเป็นหนทางสำคัญหนทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่สามารถทำมาหากินกันได้มาเป็นระยะเวลานาน
นายกฯ บอกว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองไปในอนาคตที่ไกลขึ้นอีก คือการเปิดประเทศและรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้ง 

"ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่าผมตั้งเป้าเอาไว้ว่าประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน นับจากวันนี้(16 มิ.ย.) ส่วนเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆหากพร้อมได้เร็วกว่าก็ควรทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น… ยกเว้นหากมีสถานการณ์ร้ายแรงใหม่เกิดขึ้นหรือมีความจำเป็นจริงๆก็ให้พิจารณาเป็นกรณีไป”

“ผมรู้ดีว่าการตัดสินใจของผมวันนี้มาพร้อมกับความเสี่ยงเพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตามก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้างหากความเสี่ยงนั้นเราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่าอยู่ในระดับที่พอจะรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายในสำหรับประเทศไทยของเราเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้”

เราได้เห็นกันแล้วและต้องทำใจว่า ทั่วโลกยังจะต้องอยู่กับไวรัสนี้ต่อไปอีกซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยด้วย แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถรอจนไวรัสนี้หมดไปจากโลกและเราก็ไม่สามารถรอจนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสกันถ้วนหน้าก่อนแล้วจึงค่อยเปิดประเทศ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เหมือนกับโรคภัยอื่นๆ จัดการโควิดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้และให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับออกมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง นี่คือนโยบายและเป็นเป้าหมายที่ผมตั้งไว้

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ