ไม่ควรละเลย หากเป็น"โรคแพนิค" ควรทำตัวอย่างไร
จากสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยเผชิญกับโรคโควิด19 ซึ่งหลายคนเมื่อติดไปแล้ว หลังรักษาหายเกิดความกังวล ทำอะไรก็ระแวงไปหมด จนกลายเป็น"โรคแพนิค" ในโรคนี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นทันทีทันใด โดยผู้ป่วยจะมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นแรง อึดอัด แน่นหน้าอก หายใจไม่ทันหรือไม่เต็มอิ่ม บางรายอาจวิงเวียน ท้องไส้ปั่นป่วน มือเท้าเย็นชารู้สึกเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ จากนั้นจะเริ่มรู้สึกกลัวเหมือนตัวเองกำลังจะตาย หรือจะเป็นบ้า อาการจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเต็มที่และสงบลงในเวลาประมาณ 10 นาที บางรายอาจนานกว่านั้น แต่มักไม่เกิน 1 ชั่วโมง และจะเป็นซ้ำ ๆ โดยมีสิ่งกระตุ้นหรือไม่มีก็ได้ แพทย์ก็มักตรวจไม่พบความผิดปกติ และมักได้รับการสรุปว่าเป็นอาการเครียดหรือคิดมาก สาเหตุของโรคแพนิคจริงๆนั้น ไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่ามีหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยทางร่างกายและทางจิตใจ ทางร่างกาย อาจเกิดจากสมองส่วนควบคุมความกลัวที่เรียกว่า “อะมิกดาลา” ทำงานผิดปกติ
อาการหลักๆของโรคแพนิค
-ใจสั่น ใจเต้นแรง แน่นหน้าอก
-เหงื่อออกมาก หนาวๆ ร้อนๆ
-หายใจถี่ หายใจตื้น หายใจไม่อิ่ม
-วิงเวียน โคลงเคลง รู้สึกตัวลอย คล้ายจะเป็นลม
-รู้สึกกลัวไปหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะกลัวตาย
-ควบคุมตัวเองไม่ได้ รู้สึกอยู่คนเดียวไม่ได้
ถ้าหากเกิดอาการเหล่านี้ และเกิดข้อสงสัยว่าเราเป็นแพนิคหรือไม่ เราควรไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอย่างแน่ชัด หากเราเป็นแพนิค ต้องทานยาเพื่อปรับสมดุลของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ การตรวจเลือดหาสาเหตุที่เกิดทางด้านร่างกาย เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ หรือรักษาด้วยการทำจิตบำบัดซึ่งอาจหาต้นเหตุของความกลัวได้ ต่อให้โรคนี้ไม่อันตรายถึงชีวิตเราต้องรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้หายขาดจากโรคนี้
หากเราเป็นแพนิค เราทำตัวอย่างไร
1. หายใจเข้าออกลึก ๆ ช้า ๆ และบอกตัวเองว่าอาการไม่อันตราย แค่ทรมานแต่เดี๋ยวก็หาย
2. มียาที่แพทย์ให้พกติดตัวไว้ กินเมื่ออาการเป็นมาก
3. ฝึกการผ่อนคลายอื่นๆ เช่นออกกำลังกาย ทำสมาธิ ทำงานอดิเรกต่าง ๆ ที่ช่วยให้มีความสุข
4.งดหรือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง