ผู้การฯนราธิวาส สั่งไล่ล่า "ปืน เอเค." 28 กระบอก หลังสูญหายปริศนา ล่าสุดตามยึดคืนได้แล้ว 6 พร้อมผู้ต้องหาอีก 1 ราย
จากกรณีอาวุธปืน เอเค 102 ของกองร้อย อส.ที่ 2 อ.เมือง จ.นราธิวาส จำนวน 28 กระบอก ได้สูญหายไป ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสืบสวนขยายผล และสามารถยึดอาวุธปืนคืนกลับมาได้ จำนวน 6 กระบอก รวมทั้งมีผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวอีก 1 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องทราบว่า ผู้ต้องหาได้มีการนำอาวุธปืนไปขาย ซึ่งจากนี้ไปทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จะเร่งขยายผลจากปืนทั้ง 6 กระบอก ที่ยึดกลับคืนมาได้ เพื่อสืบหาว่า อาวุธปืนที่เหลือ หรือยังตามไม่พบ มีที่ไปที่มาอย่างไรต่อไป
"เรื่องนี้ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 (ผบช.ภ.9) ได้สั่งการลงมาให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้รายงานความคืบหน้าทุกระยะ ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบว่า อาวุธปืนที่สูญหาย หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ หรือต้นสังกัดอยู่ที่ส่วนใด รวมทั้งบัญชีอาวุธปืนด้วย " ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับกองกำลังอาสารักษาดินแดน (อส.) พบว่า ปัจจุบันขึ้นอยู่กับ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการเปิดรับสมัครบุคคลในพื้นที่ เข้ามารับการฝึกอบรม เพื่อใช้เป็นกองกำลังรักษาพื้นที่ เนื่องจากเป็นบุคคลพื้นถิ่น ทำให้มีความคุ้นเคยกับประเพณี และวัฒนธรรมของชาวบ้านเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา อาวุธปืน เอเค 102 ที่ใช้ในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อส. ทางรัฐบาลได้มีการจัดซื้อให้ และให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น บัญชีอาวุธปืนจึงต้องขึ้นอยู่กับทางจังหวัด นอกจากอาวุธปืน เอเค แล้ว ทางกระทรวงมหาดไทย ยังได้มีการอนุมัติจัดซื้ออาวุธปืนลูกซอง เพื่อแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง