รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ตั้งคณะกรรมการสอบตำรวจที่ ทำร้ายผู้ต้องหา ในห้องขัง

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564  นายสายชล มณี  ผู้ปกครองเยาวชนชาย 2 คนเข้าร้องเรียนกับนายภีมเดช อมรสุคนธ์ ประธานชมรมทนายความจังหวัดระยองขอความเป็นธรรมและดำเนินคดี กับดาบตำรวจ อุทัย ไชปุริวงศ์  ทำหน้าที่เข้าเวรควบคุมผู้ต้องหา สภ.เมืองระยอง ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบุตรชายในห้องขังซึ่งบุตรชายถูกจับข้อหาครอบครองกัญชา 1 มวน และถูกควบคุมตัวในห้องขัง ต่อมาได้มีเพื่อนมาเยี่ยม และจะไปซื้อข้าวมาให้กิน จากนั้นดาบตำรวจอุทัย จึงสั่งให้เพื่อนซื้อบุหรี่มาฝาก 2 ซอง แต่เพื่อนซื้อบุหรี่มาแล้ว แต่ลืมให้ดาบตำรวจอุทัย ทำให้ดาบตำรวจอุทัย จึงเข้าไปทำร้ายร่างกาย ด้วยการต่อยใบหน้า และใช้เท้าตบใบหน้าและเตะตามร่างกายจนได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย  นายสายชล  มณี  จึงยื่นขอประกันตัวบุตรชายทั้ง 2 คนพร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีกับดาบตำรวจอุทัย

ต่อมา พลตำรวจตรีมานะ  อินพิทักษ์  รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ปฏิบัติราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง  มีคำสั่งให้ดาบตำรวจอุทัย ไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก ตำรวจภูธรจังหวัดระยองแล้วพร้อมทั้งได้ออกคำสั่งตำรวจภูธร ที่ ๑๗๗/๒๕๖๔ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน

ด้วย ดาบตำรวจ อุทัย ไชยปุริวงศ์ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง จังหวัดระยอง กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยกระทำผิดอาญาในข้อหา ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นเหตุเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่บนสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง ระหว่างสอบสวนได้ถูกดาบตำรวจ อุทัย ไชยปุริวงศ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาบนสถานี ตรวจสอบพบว่า นายธนากร เกิดมณี ผู้ต้องหา มีบุหรี่ไว้ในครอบครอง จึงเกิดการทะเลาะวิวาท และใช้กำลังประทุษร้ายทำร้าย ร่างกายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจนายธนากร เกิดมณี พฤติการณ์และการกระทำความผิดของ ดาบตำรวจ อุทัย ไชยบุริวงศ์ เป็นการกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานเหยียดหยาม กดขี่ ข่มเหงทำร้ายประชาชนในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตามมาตรา ๗๕ (๓) แห่ง พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔3)อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ มาตรา ๘๖

จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคล

ดังต่อไปนี้
๑. พันตำรวจโท ยุทธชัย โพธิ์รุ่ง  สารวัตร(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง ประธานกรรมการ

๒. พันตำรวจโท สมบูรณ์ กลืนกระโทก  สารวัตร(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย รักษาราชการแทนสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง  กรรมการ
๓. ร้อยตำรวจเอก สมบัติ ถวาปี  รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง กรรมการและเลขานุการ

     ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสอบสวนดำเนินการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่กำหนดใน กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พุทธศักราช ๒๕๔๗ ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวน การสอบสวนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัย อย่างร้ายแรงในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่สอบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและคณะกรรมการสอบสวนพิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมกระทำการในเรื่องที่สอบสวนนั้นอยู่ด้วยให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว

สั่ง ณ วันที่ 21 เมษายน ๒๕๖๔
พลตำรวจตรี มานะ อินพิทักษ์
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๒ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง

ทีมข่าวเฉพาะกิจ ภาคตะวันออก   รายงาน