ไร้ฝั่ง ครบรอบ 1 เดือน คดีการเสียชีวิต พริตตี้วาวา ยังจับใครไม่ได้ 

     ผ่านมาแล้ว 1 เดือนพอดิบพอดี สำหรับการเสียชีวิตของ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือ "พริตตี้วาวา" หลังไปรับเอนเตอร์เทนที่บ้านพักหรูย่านเสนานิคม 1 ก่อนที่จะหมดสติจนทำให้คนในวงปาร์ตี้ช่วยนำเธอส่งรพ.เอกชนแห่งหนึ่ง แต่สุดท้ายเธอได้เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติและเพื่อน 

     ตลอดระยะเวลาที่เป็นคดีที่ผ่านมาครอบครัวของ"พริตตี้วาวา" ต่างกังวัลใจเรื่องความเป็นธรรมของคดีดังกล่าว เนื่องจากนานวันคดีดูเหมือนจะเลือนหายไป จะเป็นด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ ต่างจากคดีของ"พริตตี้ลันลาเบล" ที่สื่อพยายามเกาะติดการทำคดีรวมไปถึงการทำงานอย่างเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจนสามารถคลี่คลายคดีนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 

     แต่นาทีนี้คดีของ "พริตตี้วาวา" ตำรวจยังคงอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ที่ตรวจพบในบ้านที่เกิดเหตุ รวมไปถึงการระบุตัวตนว่าใครอยู่ในบ้านปาร์ตี้บ้าง ซึ่งเชื้อว่าจะมีจำนวนหลายคนและหลากหลายอาชีพ        

     ในส่วนผลการชันสูตรพลิกศพของนิติเวช ระบุว่า ไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกายและการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่พบสารเสพติดในร่างของ "พริตตี้วาวา" จำนวน 4 ชนิด ประกอบด้วย

    1.สารเมทแอมเฟตามีน

    2.เคตามีน

    3.ยาอี 

    4.ไดอาซีแพม 

     ทั้งนี้ในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้นั้นล่าสุดทาง พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) ระบุว่า พนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียก หรือหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ทั้ง 25 คน และยังรอเอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการจากแพทย์ และกองพิสูจน์หลักฐาน ที่คาดว่าจะออกได้ในสัปดาห์นี้ 

     ซึ่งจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญเพื่อนำมาสู่การออกหมายจับ พร้อมกับสรุปพฤติการณ์ของผู้กระทำความแต่ล่ะรายที่จะถูกแจ้งเพิ่มเติมนอกเหนือจากความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคติดต่อบ้าง โดยข้อหาหนักสุดเป็นข้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของยาเสพติด ทั้งความผิดฐานเสพยาเสพติด , ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย  

     ด้านข้อมูลสืบสวนเชิงลึกพบว่าคดีนี้มีผู้ที่เข้าข่ายความผิดนี้มีไม่น้อยกว่า 4 คน ประกอบไปด้วย เจ้าของบ้าน และเพื่อนเจ้าของบ้านอีก 3 คน ส่วนบุคคลอื่น ๆ ยังต้องรอลุ้นว่าจะสามารถแจ้งข้อหาใดได้ 

     อย่างไรก็ดีในส่วนเรื่องภาพวงจรปิดที่พบว่ามีการลบออกไป และมีการกู้คืนมาได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะมีการดำเนินสืบสวนด้วยว่าใครเป็นผู้ลบ ซึ่งหากสอบสวนทราบตัวบุคคลแล้วนั้น ก็จะมีการพิจารณาแจ้งความในส่วนนี้ ในข้อหา "ฐานพยายามซ่อนเร้น ทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ"

     ซึ่งกระบวนการทางคดีในส่วนที่เหลือคาดว่าจะใช้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ หรือ ไม่เกินสัปดาห์หน้า ทางตำรวจจะออกหมายเรียก หรือ อาจจะออกหมายผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทุกราย ให้มารับทราบข้อกล่าวหา 

     คดีนี้จะเป็นอีกหนึ่งคดีที่จะวัดความสามารถของพนักงานสอบสวนว่าจะรวบรวมหลักฐานแน่นหนาพอที่จะออกหมายจับรวมไปถึงในการตัดสินคดีในอนาคตที่ใกล้จะมาถึง และทั้งหมดนี้ก็เพื่อความเป็นธรรมให้กับญาติของ "พริตตี้วาวา" ที่ตั้งตารอคอยความยุติธรรม