ทนายความชื่อดังพูดแล้ว คดีดราม่าหวยอลเวง 12 ล้าน "ป้าไพ-ป้ารัตน์" ฝ่ายไหนได้เปรียบ
จากกรณีคดีหวยอลเวง 12 ล้านบาท ที่มีนางไพมณี พลราชม หรือ ป้าไพ อายุ 57 ปี อาชีพค้าขาย ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร ว่าตนเองถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลขรางวัล 835538 งวดวันที่ 1 มี.ค. 2564 จำนวน 2 ใบ (12 ล้านบาท) แต่ลอตเตอรี่อยู่กับคนขาย ซึ่งได้จองและมีการเขียนชื่อสลักหลังไว้ แต่คนขายคือนางรัตนา ภูละคร หรือ ป้ารัตน์ บอกว่าลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ใบดังกล่าวได้ถูกขายไปแล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวล่าสุดวันนี้(17 มี.ค. 2564) ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง เจ้าของเพจ "สายตรงกฎหมาย" ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดังว่า "ในเรื่องหวย 12 ล้าน ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ผมมองว่า ยังไงๆ ป้าไพก็ได้เปรียบ"
ประเด็นแรก ถ้ามีการซื้อขายหวยกันแล้ว แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน แล้วก็ยังไม่ได้เอาหวยไป กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาดแล้ว กรรมสิทธิ์ในหวยโอนไปที่ป้าไพแล้ว ป้าไพเป็นเจ้าของทันทีแม้จะยังไม่ได้จ่ายเงินก็ตาม ซึ่งผู้ขายก็ไปทวงเงินค่าหวยทีหลังได้
แต่ถ้าเป็นการจองหวยไว้เฉยๆ ต่อมาป้าไพยังไม่ได้มีการจ่ายเงิน หลายคนสงสัยว่าคนขายจะเอาหวยไปขายให้คนอื่นเลยได้หรือไม่ คำตอบคือ "ไม่ได้" เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 387 มีหลักว่า แม้ป้าไพจะไม่จ่ายเงิน แต่ก็ไม่ได้มีการตกลงว่าให้คนขายเอาไปขายต่อได้เลย ดังนั้นสัญญาจองหวยยังมีผลผูกพันอยู่
หมายความว่า คนขายยังมีหน้าที่ต้องส่งมอบหวยให้ป้าไพ ตราบใดที่ยังไม่มีการบอกเลิกสัญญาจอง หากคนขายเอาไปขายโดยที่ยังไม่บอกเลิกสัญญาจอง คนขายก็ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ต้องชดใช้เงินให้ป้าไพ 12 ล้านบาท อ้างอิงคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 390/2536
ทนายรัชพล ระบุต่ออีกว่า ตามกฎหมายแล้ว ถ้าป้าไพไม่จ่ายเงิน คนขายจะต้องไปบอกป้าไพให้ชำระเงินก่อน ภายในกำหนดเวลา ถ้าป้าไพยังไม่จ่ายเงิน คนขายถึงจะยกเลิกสัญญาจอง แล้วเอาหวยไปขายต่อคนอื่นได้ เพราะถือว่ามีการบอกเลิกสัญญาแล้ว หรือไม่ก็ "เวลาที่จอง" คนขายต้องกำหนดวันจ่ายเงินมาเลย ถ้าไม่จ่ายขอเอาไปขายให้คนอื่น ก็ต้องบอกกันไว้แบบนี้ถึงจะตัดปัญหาได้
งานนี้ ถ้าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ป้าไพย่อมได้เปรียบเต็มประตู แต่คนขายจะหาเงินจากไหนมาชดใช้ล่ะ?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง