ข่าว

โฆษก ตร. ยอมรับ หนังสือรับโอน "บิ๊กโจ๊ก" ถึง ตร.แล้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โฆษก ตร.เผยหนังสือ "รับโอน สุรเชษฐ์" ลงนามโดยปลัดสำนักนายกฯ ส่งเข้าสำนักกำลังพล ประมวลก่อนส่งต่อ ผบ.ตร.พิจารณเสนอนายกฯ สัปดาห์หน้า ลุ้นที่ประชุม ก.ตร.โผล่วาระคืนตำแหน่ง - 8 นายพล 'ผบช.- ผบก'

วันที่ 10 มีนาคม 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(โฆษก ตร.) กล่าวถึงการดำเนินการรับโอนพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) กลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ ว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับหนังสือลงนามโดยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเทียบโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ หลังจากเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ตัดโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไปดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) 

โดยขณะนี้สำนักงานกำลังพล อยู่ระหว่างการประมวลเรื่องเสนอผู้บังบัญชาตามลำดับชั้น เพื่อกลั่นกรองก่อนเสนอ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พิจารณาสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ

อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่สามารถตอบได้ว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นเมื่อใด และจะสามารถดำเนินการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในวาระเดือนเมษายนนี้หรือไม่  ส่วนเรื่องเหตุผลความจำเป็นในการเทียบโอน ตามหนังสือของสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ เพียงว่านายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา มีอำนาจบรรจุแต่งตั้ง เห็นควรให้มีการตัดโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ โดยไม่ได้ให้เหตุผลใดเป็นพิเศษ

โฆษกตร. กล่าวต่อว่า สถานะของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขณะนี้ถือว่ามีการตัดโอนมาแล้ว ตามหนังสือของสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 5 มีนาคม 2564 หนังสือมาถึง ตร.เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 แต่ยังมีกระบวนการทางธุรการ เป็นเรื่องทางเทคนิคกำลังพล ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ

ขอยืนยันว่ากรณีนี้เป็นระบบการบริหารราชการตามปกติ ที่มีการโอนย้ายข้ามหน่วยงาน เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าของข้าราชการทั้งหมดอยู่แล้ว มีอำนาจที่จะดำเนินการให้การทำงานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 12 มีนาคม นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) โดยมีวาระกำหนดตำแหน่งระดับ ผบช. 4 ตำแหน่ง และผบก. 4 ตำแหน่ง ซึ่งในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ผ่านมาได้ส่งเรื่องกลับมาให้ ตร.นำไปกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของตำแหน่งที่เปิดใหม่ให้มีความชัดเจนมากขึ้น

ทั้งนี้ ตามวาระยังไม่มีการพูดคุยเรื่อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการกำหนดตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร.เพื่อรองรับการเทียบโอนนั้น ตนยังไม่เห็นวาระดังกล่าว แต่หากมีก็จะชี้แจงให้ทราบต่อไป

เมื่อถามถึงความชัดเจนว่าจะมีการรับโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาดำรงตำแหน่งใด จะต้องมีการกำหนดตำแหน่งเพื่อรองรับหรือไม่ พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ตรงนี้ต้องรอให้สำนักงานกำลังพลประมวลเรื่อง เสนอผู้บังคับบัญชา ตนยังไม่สามารถตอบได้ ว่าจะดำเนินการอย่างไร จะต้องมีการกำหนดตำแหน่งขึ้นมาใหม่ หรือจะชดเชยจากตำแหน่งที่มีอยู่เดิม

ส่วนเมื่อรับโอนกลับมาแล้ว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  จะดำรงตำแหน่งระดับ ผบช. หรือ ตำแหน่งที่สูงขึ้นตรงนี้อยู่ระหว่างการประมวลของสำนักงานกำลังพล ตนยังไม่สามารถตอบได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามการเทียบตำแหน่ง มีระเบียบของก.พ.อยู่แล้ว ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นข้าราชพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนักบริหารระดับสูง ตามหลักแล้วเมื่อโอนย้ายกลับมา ตำแหน่งที่ได้รับก็ต้องไม่ต่ำกว่าตำแหน่งเดิม 

ส่วนเรื่องการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นั้น พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ รับราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี การตั้งกรรมการ หรือ การตรวจสอบอื่นใด เกี่ยวกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ อยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี กระบวนการต่อจากนั้นตนยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ หลังจากนี้คงจะต้องมีการประสานกับสำนักนายกฯ ว่า มีเรื่องใดบ้างที่ดำเนินการแล้ว หรือยังไม่แล้วเสร็จ และจะให้ ตร.ดำเนินการอย่างไร คงต้องรอการประสานงานก่อน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโอนย้ายกลับมาของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่่ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งประเภท บริหารระดับสูง ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการโอนข้าราชการซึ่งไม่ใช่ข้าราชการตำรวจหรือการโอนพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547 ข้อ 4  ประกอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตำแหน่งของ ก.พ.  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สามารถโอนย้ายกลับมาในตำแหน่งเทียบชั้นยศ พล.ต.ท. ได้ทั้งตำแหน่งระดับเดิม ผบช. เท่าตอนถูกโอนย้ายไป หรือขยับสูงขึ้น เป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งอำนาจในการพิจารณารับโอน เป็นของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.โดยพิจารณาจากอัตราเงินเดือน ประสบการณ์ ความเหมาะสม กฎหมาย และตำแหน่งที่ว่างอยู่

ขณะเดียวกัน ในวันที่ 12 มีนาคม นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) โดยมีวาระกำหนดตำแหน่งระดับ ผบช. 4 ตำแหน่งและผบก. 4 ตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่บริหารและขับเคลื่อนงานด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตร. คาดว่าในสัปดาห์ถัดไปจะมีการประชุม ก.ตร. เพื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับนายพล วาระเดือนเมษายน โดยอาจจะมีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในคราวนี้ด้วย

ดังนั้น หากมีตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร.หรือเทียบเท่าว่างลงก็เป็นช่องทางที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะโอนย้ายกลับมาได้ ในตำแหน่งระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือเข้าสู่ตำแหน่งระดับ ผบช.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ