ข่าว

แม่ - เพื่อนสนิท พริตตี้ 'วาวา' รุดจี้ตามคดี ลั่นต้องการทำคดีให้ถึงที่สุด 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มารดาและเพื่อนสาวคนสนิทของ พริตตี้สาว "วาวา" ได้เข้าติดตามความคืบหน้าคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน โดยทางด้านมารดายืนยันต้องการให้คดีลูกสาวให้คดีถึงที่สุดและต้องการความยุติธรรมให้ลูกสาว 

     จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.เข้าประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีที่ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือพริตตี้สาว "วาวา" ที่เสียชีวิตหลังรับงานเอนเตอร์เทนกับนายเก่ง ที่บ้านพักย่านเสนานิคม 1 ซอย 12 แยก 2 พร้อมสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ย้อนไทม์ไลน์ก่อนนาทีดับพริตตี้สาว 'วาวา' - พฐ.เร่งกู้ไฟล์ภาพวงจรปิด 

 

     ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 2 มีนาคม ที่ สน.พหลโยธิน น.ส.พรทิพย์ แก้วสุข อายุ 54 ปี แม่ของ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือพริตตี้สาว "วาวา" ได้เดินทางเข้ามาติดตามคดี พร้อมกล่าวว่า อยากให้ตำรวจรวบรวมหลักฐานทุกอย่าง เช่น กล้องวงจรปิด นำมาเปิดเผยให้กระจ่าง ตอนนี้ที่ตำรวจทยอยสอบปากคำพยานรวมถึงเจ้าของบ้าน ก็พอมีความหวังมากขึ้น บางหากทุกอย่างชัดเจนและจบเร็ว จะได้นำร่างลูกสาวไปฌาปนกิจโดยเร็ว       

 "ตนเชื่อว่ามันต้องมีเหตุให้เกิดขึ้น ยืนยันว่าลูกไม่ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดตามที่มีข่าวบอกว่าพบสารเสพติดแน่นอน แม้แต่กาแฟหรือแอลกอฮอล์ ลูกก็ไม่ดื่ม ต้องไปหาสาเหตุจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด หากน้องดื่มเอง ตนก็สงสัยว่าใครนำสารเสพติดไปให้ดื่ม" น.ส.พรทิพย์ กล่าว    

    น.ส.พรทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า หลังลูกเสียชีวิต ก็ไม่เคยมีใครในงานติดต่อเข้ามาเลย ตนไม่เคยรู้จักบรรดาพริตตี้ที่ไปรับงานกับลูกในงานอีกด้วย ทั้งนี้ตนไม่อยากเปรียบเทียบกับคดีพริตตี้ลันลาเบล แต่ต้องการให้คดีถึงที่สุด คนทำผิดต้องได้รับโทษ ลูกตนต้องได้รับความยุติธรรม ตอนนี้หากพบกับผู้กำกับ ก็อยากทราบว่าจะคลี่คลายคดีได้อย่างไร

     ต่อมาเมื่อเวลา 16.00น. น.ส.อุ๊ เพื่อนสาวคนสนิทของพริตตี้วาวา ได้เข้ามาติดตามความคืบหน้าเช่นกัน พร้อมกับระบุว่า ปกติวาวาจะรับงานเปิดพวกร้านนั่งชิล ไม่ค่อยรับงานสถานที่ปิด เพียงแต่จะรับปีละ 1 - 2 ครั้ง ที่รับงานนี้เพราะรู้จักและไว้ใจกับผู้ที่ติดต่อจ้างวาน โดยก่อนที่วาวาจะออกไปทำงานก็ได้บอกว่าออกไปบ้านคนที่ชื่อเก่ง เพราะได้รับการจ้างมา  ต่อมาวาวาก็ได้แชทไลน์มา บอกว่าถึงบ้านเก่งแล้ว ต้องเก็บโทรศัพท์และทำงานก่อน 

     น.ส.อุ๊ เล่าต่อว่า หลังจากนั้นก็ไม่ได้ส่งข้อความมาอีก กระทั่งช่วงเช้าพยาบาลโทรศัพท์มาหาตนบอกว่ามีพลเมืองดีพาวาวามาส่งที่โรงพยาบาลด้วยอาการเกร็ง ตนจึงรีบออกไป เมื่อถึงโรงพยาบาลพบว่าวาวายังไม่ได้เข้าห้องไอซียูยังไม่ได้รับการรักษาจนกระทั่งเวลาผ่านไปสักระยะจึงมีบุรุษพยาบาลเข็นวาวาเข้าห้องไอซียู  

     น.ส.อุ๊ กล่าวต่อไปว่า ปกติแล้ววาวาดื่มแอลกอฮอล์เป็นปกติ เพราะทำงานในลักษณะนี้ แต่ก็รู้ลิมิตตัวเอง ไม่ได้ดื่มจนเละเทะหรือดูแลตัวเองไม่ได้ ส่วนเรื่องสารเสพติด ทราบว่ามีเพื่อนเขา เสพอยู่แล้ว แต่วาวาไม่ได้เสพด้วย ส่วนเรื่องที่สงสัยว่าเหตุใด หลังเกิดเหตุมีการลบภาพวงจรปิดและจ้างบริษัททำความสะอาดเข้ามาที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพราะหากไม่ได้ทำผิดอะไรก็ไม่เห็นต้องจากบริษัทมาทำความสะอาดทันทีหลังเกิดเหตุ


 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ