ข่าว

รวบแล้ว 'หมอดั้ม'หนีคดีเปิดคลินิกเถื่อนย่านดินแดงตั้งแต่ปี 57

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบแล้ว 'หมอดั้ม'หนีคดีเปิดคลินิกเถื่อนย่านดินแดง ตั้งแต่ปี 2557 ผู้เสียหายฉีดโบท็อกซ์เกิดปวดสันจมูก ตาขวามีน้ำตาไหล สุดท้ายตาบอด อีกรายปวดแสบ-ปวดร้อนทั่วใบหน้า ค้นคลินิกไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และไม่พบรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เจ้าตัวรับสารภาพ

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้เข้า จับกุมนายธนพิพัฒน์ หรือ หมอดั้ม (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ในข้อหา “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา, ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2558 โดยจับกุมบริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ กลางซอยหนองใหญ่ 14 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สำหรับนายธนพิพัฒน์ พบว่าทำงานอยู่ในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านดินแดง กทม. โดยรับหน้าที่เป็นแพทย์โดยใช้ชื่อว่า “หมอดั้ม” ทำหน้าที่รักษาและฉีดฟิลเลอร์, โบท็อกซ์ ให้กับลูกค้าทั่วไป ต่อมาได้มีผู้เสียหาย จำนวน 2 ราย เดินทางไปรักษาที่คลินิกดังกล่าว

รายแรกเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2557 นายธนพิพัฒน์  ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ให้กับผู้เสียหายที่บริเวณร่องแก้ม และฉีดโบท๊อกซ์ที่บริเวณหน้าผากและบริเวณกราม หลังจากฉีดเสร็จผู้เสียหายรู้สึกปวดแสบปวดร้อนทั่วใบหน้า วันต่อมาพบว่าบริเวณจมูกมีอาการอักเสบและมีหนองไหลออกมา

 ส่วนผู้เสียหายรายที่ 2 เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2557 นายธนพิพัฒน์ ได้ทำการฉีดโบท๊อกซ์ให้ผู้เสียหายที่บริเวณแก้ม 1 ยูนิต และฉีดฟิลเลอร์ที่จมูก 2 ซีซี หลังจากนั้นผู้เสียหายรู้สึกปวดที่สันจมูกระหว่างดวงตาทั้งสองข้าง โดยดวงตาขวามีน้ำตาไหลออกมา และรู้สึกว่าดวงตาข้างขวามองไม่เห็น จากนั้นรู้สึกแน่นหน้าอกและช่องท้องจึงได้อาเจียนออกมา ญาติพาส่งโรงพยาบาล ต่อมาทราบว่าดวงตาข้างขวาได้บอดสนิทไปแล้ว

 

 

ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย จึงไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ประกอบกับได้รับการประสานงานจาก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวด้วย จึงได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ ค.26/2557 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2557 ไปทำการตรวจค้นคลินิกดังกล่าว

เมื่อไปถึงพบว่าคลินิกดังกล่าวปิดล็อคกุญแจไว้ ผลการตรวจค้นไม่พบผู้ใดอยู่ในคลินิก แต่พบยาแผนปัจจุบันที่มีทะเบียนตำรับยาและไม่มีทะเบียนตำรับยา จำนวน 17 รายการ และพบเอกสาร, อุปกรณ์ที่ใช้ในสถานพยาบาล จำนวน 33 รายการ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

จากนั้นได้ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ปรากฏว่าไม่พบการอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลดังกล่าว และตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ไม่ปรากฏชื่อของ นายธนพิพัฒน์  ในทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา แต่อย่างใด พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับ

จนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาทำงานและพักอาศัยอยู่ที่บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ซอยหนองใหญ่ 14 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจับกุมได้เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลาประมาณ 11.00 น. สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ