"แรมโบ้" แจ้งความตำรวจ ปอท. ดำเนินคดี "เจี๊ยบ-อมรัตน์" พรรคก้าวไกล ฐานความผิด ม.14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีทวิตโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เสียภาษีค่าน้ำค่าไฟ ที่กองทัพบกจ่ายให้หลังเกษียณ และแจ้งข้อหาตามกฎหมายอาญา ม.112
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 18 ก.พ.2564 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ (แรมโบ้) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายทศพล เพ็งส้ม กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.ให้ดำเนินคดี นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในความผิดตาม ม.14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีทวิตข้อความกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าไม่เสียภาษีค่าน้ำค่าไฟที่กองทัพบกจ่ายให้หลังเกษียณราชการ และแจ้งข้อหาตามกฎหมายอาญา ม.112
นายสุภรณ์ กล่าวว่า ได้นำหลักฐานเป็นภาพและคลิปวิดีโอของนางอมรัตน์ ที่สนับสนุนผู้กระทำผิดตามกฎหมายอาญา ม.112 ด้วยการไปร่วมชุมนุม และให้ทุนต่อม็อบของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายอานนท์ นำภา จึงต้องมาแจ้งความต่อตำรวจเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับ ส.ส.รายอื่น รวมถึงเยาวชน
ส่วนกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวหาว่า ตนรับคำสั่งนายกฯ มานั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะ ม.112 เป็นความผิดเรื่องความมั่นคง ใครก็สามารถแจ้งความได้ จึงมาในนาม คณะวอร์รูมฝ่ายกฎหมาย คณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ(สสอ.) อีกทั้งนายกฯ ก็ไม่เคยปิดปากใครตามที่กล่าวหา
นายทศพล กล่าวว่า กรณีนางอมรัตน์ กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ ประเด็นการทุจริตในหน้าที่ 3 ข้อ คือ 1.ทำผิดกฎหมายประมวลรัษฎากร เรื่องหนีภาษี 2.ทำผิดกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รับผลประโยชน์อื่นใดเกินที่กฎหมายกำหนด และ 3. มีพฤติกรรมปกปิดข้อมูลส่วนตัวเพื่อหนีการตรวจสอบ และเข้าข่ายให้ข้อมูลเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งประเด็นต่างๆ นั้น ส.ส.ต้องเป็นผู้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นจริงหรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไปแล้ว ยืนยันว่าการแจ้งความนั้นไม่ได้เป็นการปิดกั้นการอภิปรายในสภา แต่การอภิปรายต้องเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเท็จ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง