ผู้นำท้องถิ่นร่วมอนุรักษ์ ออกสำรวจไร่อ้อย หวั่นช้างอีกโขลงที่แตกออกจากโขลงใหญ่จะวกหวนกลับมา

 เมื่อเวลา 06.00 น. วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564 นายเอกพจน์ มั่นภักดี  นายสมศักดิ์ ขำคม ส.อบต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ฝ่ายปกครอง ออกสำรวจบริเวณไร่อ้อย ม. 11 บ้านไทรงาม อีกครั้งในเช้าตรู่วันนี้ หวั่นช้างอีกโขลงที่แตกออกจากโขลงใหญ่จะวกหวนกลับมา ซึ่งทราบจากนายวัชร วงษ์ศา หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาใน ว่าจากการนำเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ อาสาต้นน้ำภูไท ร่วมผลักดันช้างตลอดคืนที่ผ่านมา สามารถผลักดันช้างข้ามไปทางกลุ่มบ้านปราจีน ม. 13 บ้านชมพู ต.ท่าตะเกียบ ได้แล้วก็ตาม

จากกรณีมีการปฏิบัติผลักดันช้างป่าฝูงจอมดื้อเมื่อวานเย็นจนเกิดอุปสรรคไฟไหม้โหมไร่อ้อย กลุ่มบ้านไทรงาม ม. 11 บ้านห้วยโสม ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เช้านี้เจ้าหน้าที่ ผู้นำ มีการใช้รถครีบอ้อยชูคอนำขึ้นยืนดูในมุมสูง พร้อมจัดกำลังออกสำรวจ ตามเส้นทางช้าง ด้านท้ายไร่อ้อย หลังทราบมีช้างที่แตกโขลงไปหากินน้ำในคลอง พบเพียงร่องลอยเท่านั้น ซึ่งจากการสำรวจไม่พบช้างในไร่อ้อย จึงตามร่องรอยช้าง จนพบว่าช้างทั้งหมดมุ่งหน้าไปรวมกันที่ บ้านวังวุ้ง ฝั่งตำบลท่าตะเกียบ จึงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง รอช่วงหลังบ่ายจะร่วมผลักดันช้างกลับเข้าป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้สำเร็จ เพราะจากพฤติกรรมช้างดูแล้วหน้าจะกินอ้อยอิ่มแล้ว

  ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางราตรี ภิลัยวัลย์  ชาวบ้านชุมชนหนองสมบูรณ์ ม.11บ้านห้วยโสม ซึ่งมีสวนยางพารา ติดไร่อ้อย บอกว่าช้างเข้ามาในเวลา 05.00 น. ของเมื่อวาน และช้างได้เคยเข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง ตนเองและชาวบ้านต่างตกใจ และกลัวช้างจะทำร้าย เพราะชาวบ้าน และคนงานต่างกำลังเตรียมเข้าไร่ เข้าสวน ตอนนี้ก็พากันมารวมกลุ่มเฝ้าดูผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ที่ผลักดันช้างตั้งแต่เมื่อวานเย็น และตลอดค่ำคืน จนมาสำรวจในเช้านี้ ที่ถึงแม้ทราบว่า อนุรักษ์สามารถผลักดันช้างออกไปได้แล้วก็ตาม แต่ก็หวั่นช้างที่ดื้อ และแตกโขลงจะหวนกลับมาเพราะอ้อยอยู่ในระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิต มีความหอมหวาน ถือเป็นของโปรดของช้างป่า

....สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา