ข่าว

จิ๊กซอว์ "เคนมผง" เครือข่ายรับส่ง-กระจายทั่วไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังการวิสามัญฯ 'เปิ้ล กำแพงแสน' เอเย่นต์ค้ายารายใหญ่ นครปฐม ทิ้งเบื้องหลัง ยาอีและเคนมผง ทำให้ตำรวจสามารถเตรียมขยายผลถึงความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหารายนี้ เกี่ยวข้องกับเหตุในเมืองหลวงหรือไม่ อย่างไร

ก่อนหน้านี้ “ทีมข่าวเนชั่น” ไ้ดเปิดข้อมูลแนวทางการสืบสวนของตำรวจนครบาล พบว่า แก๊งค์มิคาโดะ มีนาย ต. หรือ นายเติ้ล หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของแก๊งในพื้นที่ ย่านสายไหม และยังมีอีกตัวละครที่เชื่อมโยงกับแก๊งนี้ คือ ชายที่ชื่อว่า “บังมีน” ซึ่งเปิดธุรกิจประดับยนต์บังหน้า อยู่ในพื้นที่สายไหม เช่นกัน โดยตัวของ “บังมีน” ยังเป็นกุญแจที่ไขสู่ความเชื่อมโยงกับ แก๊งค้ายาที่ชื่อว่า “แก๊งเป็นต่อ” และ “แก๊งตาพูล” ซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี 

หลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจชุดสืบสวน นครบาล ได้รวบตัวนายอมรเทพ เฉลิมรัตน์ หรือฉายา “อั๋น กีวี่” ผู้ต้องหาเครือข่ายเคนมผง ได้ที่จ.เพชรบูรณ์ ก่อนจะขยายผลเจอเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ จ.นครปฐม หรือ “เปิ้ล กำแพงแสน” จนนำไปสู่การวิสามัญฯ พร้อมกับพบของกลางเป็น “เคนมผง”

แนวทางการสืบสวนยังพบอีกว่า แก๊งมิคาโดะ จะมีการส่งคนภายในแก๊งไปที่อยู่ที่ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาเสพติด เมื่อผลิตได้ตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ก็จะขนย้ายยาเสพติดกลับเข้ามาในประเทศ โดยจะนำไปพักไว้ในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่เขตปริมณฑล

เมื่อย้อนดูข้อมูล ทำเล 'แก๊งมิคาโดะ' มักเลือกเข้าไปพำนักในเขตเมืองกรุง ตั้งแต่ปี 2554 จะมีอยู่ 3 พื้นที่หลักๆ คือ พื้นที่ สน.โชคชัย สน.พหลโยธิน และสน.สายไหม ซึ่งจะเลือกทำเลทองที่เอื้อประโยชน์ต่อการพักและจำหน่ายยาเสพติด ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ของแก๊งค้ายานรก เพราะอยู่ใจกลางกรุง มีผู้คนอาศัยอยู่จำนวนมาก ที่สำคัญลักษณะทางกายภาพ มีทั้งหอพัก อพาร์ตเมนต์ ร้านเหล้า ผับ บาร์ และมหาวิทยาลัย ไม่ต่างอะไรกับ “รังปลวก” ซึ่งสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถ.รัชดาภิเษก พหลโยธิน หรือ รามอินทรา ที่สำคัญยังสามารถข้ามไปยังจ.ปทุมธานี โดยผ่านเส้นทางอ.ลำลูกกา ได้อย่างไม่ยากเย็น

ขณะที่ผู้ที่เสียชีวิตจากการใช้ “เคนมผง” มีจำนวนมากถึง 10 รายแล้ว ประกอบ ทั้งในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร 6 ราย สน.สุทธิสาร 1 ราย  สภ.บางบัวทอง 1 ราย และ สน.โชคชัย 2 ราย จะเห็นได้ว่า การแพร่ระบาดของแก๊งเคนมผง เริ่มขยายเข้าไปในพื้นที่กรุงเทพฯมากขึ้น และลุกลามไปถึงในจ.นครปฐม อีกด้วย

'ทีมข่าวเนชั่น' ยังได้รับข้อมูลจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตสายไหม คือ นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ซึ่งได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติด ที่ทำให้คนในพื้นที่เขตสายไหมเกิดอาการคุ้มคลั่ง พบสาเหตุมาจากการเสพสารที่ชื่อว่า “เคนมผง” นั่นเอง ซึ่งเพิ่งมีการแพร่ระบาดเข้ามาในพื้นที่สายไหม เมื่อช่วงปีใหม่ เพื่อทดแทน 'เคตามีน' ที่กำลังขาดตลาด

 

ผลการสำรวจพบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ใช้ยาเค จำนวนประมาณ 1,000 คน แบ่งเป็นพื้นที่แขวงคลองถนน 600 คน แขวงสายไหม 300 คน และ แขวงออเงิน 100 คน  ส่วนใหญ่ของผู้เสพมีฐานะปานกลางไปถึงฐานะค่อนข้างดี  

ที่น่าตกใจคือ อายุน้อยที่สุดแค่ 10 ขวบเท่านั้น โดยมีพฤติกรรมจากการลองกินน้ำกระท่อมที่บ้านของรุ่นพี่ และตัวของรุ่นพี่ได้นำยาเคตามีนมาให้ลองเสพจนทำให้ติดมาจนถึงปัจจุบัน 

นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้เสพมีความต้องการเสพ อย่างน้อยวันละ 1 - 2 กรัม หากคิดจากจำนวน 1,000 คน จำนวนการใช้เคตามีน จะตกอยู่ที่ประมาณ 1 - 2 กิโลกรัมต่อวัน ส่วนตัวเม็ดเงินที่กลุ่มผู้เสพต้องสูญเสียจากการซื้อยาเสพติด อยู่ที่ประมาณ 800,000 - 1,600,000 บาทต่อวัน หรือหากคิดเป็นรายเดือน จะอยู่ที่เดือนละ 24,000,000 - 48,000,000 ล้านบาท

รายงานยังระบุอีกว่า หลังจากที่ “ทีมข่าวเนชั่น” นำเสนอข้อมูลที่อาจจะมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายแก๊งมิคาโดะ ได้มีผู้ชายคนหนึ่ง ติดต่อกับตำรวจ สน.สายไหม พร้อมลงบันทึกประจำวัน แสดงความไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งเคนมผง โดยระบุว่า ผู้ที่มาแจ้งมีชื่อเล่นว่า “อามีน” ประกอบอาชีพ ทำธุรกิจค้าขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ อยู่ที่ตลาดทรัพย์เจริญ ในพื้นที่เขตสายไหม โดยยืนยันว่า ผู้แจ้งไม่ได้เกี่ยวข้องกับแก๊งหรือบุคคลที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างได้ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือยาเคนมผง โดยมิได้ประสงค์จะดำเนินการทางอาญาด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ