'นพ.โอภาส' คาดชายเมียนมา บ้านอุ้มเปี้ยม ติดเชื้อโควิดในไทย

วันนี้( 23 พ.ย. 2563) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.)   กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นชายสัญชาติเมียนมา ที่อยู่อาศัยอยู่ในที่พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบ บ้านอุ้มเปี้ยม อำเภอพบพระ จังหวัดตาก น่าจะติดเชื้อในประเทศไทย

 

อ่านข่าว : เปิด 10 อันดับ ประเทศที่ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด สาหัสหนักยอดติดทั่วโลกพุ่งวันเดียวเกือบ 5 แสนราย

 

โดยมี 2 สมมุติฐานเนื่องจากผู้ป่วยอาศัยบริเวณชายแดน อาจสัมผัสกับชาวเมียนมาที่ติดเชื้อหรืออาจติดเชื้อมานานแล้ว ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดจำนวนในเมียนมา ส่วนการติดเชื้อในประเทศจะติดจากที่ใดต้องรอผลตรวจสารพันธุกรรมอีกครั้ง ขณะนี้ไปส่งผลไปตรวจที่แลปของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว

 

โดยชายชาวเมียนมาคนนี้  มีประวัติไม่ชัดเจนต้องสอบสวนโรคเพิ่มเติมต่อไป แต่ผลจากห้องปฏิบัติการในพื้นที่พบว่ามีปริมาณเชื้อน้อย โอกาสที่จะแพร่เชื้อสู่คนอื่นจึงน้อยตามไปด้วย

 

อีกทั้งศูนย์พักพิงนี้เป็นพื้นที่ปิด สภาพแวดล้อมเป็นป่าเขา คนภายนอกไม่สามารถเข้าออกได้หากไม่ได้รับอนุญาต จึงยากที่แพร่เชื้อไปสู่คนภายในและคนภายนอกนำเชื้อเข้ามา อีกทั้งที่ผ่านมาศูนย์พักพิงไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีทั้งภาคเอกชนและองค์กรนานาชาติดูแล

 

แต่สิ่งที่กังวลจากการดูผลเลือด พบว่า ชายชาวเมียนมา รายนี้มีอาการซีดร่วมด้วย ซึ่งอาการนี้ไม่ได้มาจากโควิด-19 แต่อาจเป็นไปได้ที่จะมาจากโรคแทรกซ้อนอื่น เช่น มาลาเรีย หรือโรคพยาธิ

 

ขณะที่ จากการสอบสวนโรค พบว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 99 ราย ซึ่งตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ทั้งหมดไม่พบเชื้อ และไม่มีอาการทางเดินหายใจ ส่วนผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำได้มีการเฝ้าระวังอาการแล้วทั้งหมด

ส่วนกรณีนักเรียนหญิงลูกครึ่งไทยเมียนมาที่ติดเชื้อ แต่ไม่ได้อยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ นายแพทย์โอภาส ระบุว่า อาการป่วยดีขึ้นจาการดูผลเอ็กเรย์ปอดไม่พบร่องรอยของโรคแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเบื้องต้นใกล้ชิดยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม โดยคาดว่าน่าจะติดมาจากญาติที่เมียนมา

 

นายแพทย์โอภาส ระบุว่า การพบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 1-2 คนที่ผ่านมา ยังไม่ใช่การระบาดระลอก 2 เหมือนในหลายประเทศ เพราะตามหลักระบาดวิทยา การจะเรียกว่า การระบาดระลอกใหม่ ต้องมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากติดต่อกันหลายวัน

 

"ยืนยันความพร้อมในรักษาโควิด-19 ทั้งการจัดเตรียมยาและเวชภัณฑ์ๆมีความเพียงพอ มีการสำรองยาฟาวิพิลาเวียร์ 5,000-6,000 เม็ด ซึ่งผู้ป่วยทุกรายไม่จำเป็นต้องใช้ยา บางรายสามารถหายเองได้"