ข่าว

 คดี"บอส" ตำรวจทองหล่อสรุปสำนวนส่งอัยการพรุ่งนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงคดี"บอส อยู่วิทยา" ระบุ สน.ทองหล่อเตรียมสรุปส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาวันที่ 28 ส.ค.นี้ ก่อนให้ทางกองการต่างประเทศทำคำร้องเสนอตำรวจสากล ออกหมายแดงประกาศสืบจับตามขั้นตอน ยันใช้ผลคำนวณความเร็วพิสูจน์หลักฐานเป็นหลัก

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 27 สิงหาคม พลตำรวจโทจารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรีวรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ พันตำรวจเอกสัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้ากรณีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา หลังจากมีการออกหมายจับแล้วจะมีการดำเนินการอย่างไร

 พลตำรวจโทจารุวัฒน์ กล่าวว่า มีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญกับคดีที่จะให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาได้ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับประเด็นพยานผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็ว และพบพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าได้มีการเสพยาเสพติด แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด คณะกรรมการจึงแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าวไปยังอัยการสูงสุดโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เห็นชอบตามที่คณะกรรมการได้เสนอไป โดยมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีเพิ่มเติมที่เป็นพยานหลักฐานใหม่ไปให้ผบ.ตร.ทราบเป็นที่เรียบร้อย

พลตำรวจโทจารุวัฒน์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ผบ.ตร.ทราบ 3 ประการ คือประการแรกพบคณะกรรมการพบข้อเท็จจริงอันสำคัญแห่งคดีที่สามารถลงโทษผู้ต้องหาได้ ในข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและพยานหลักฐานในเรื่องการเสพยาเสพติดโดยได้รายงานไปยังผบ.ตร.พร้อมมีข้อเสนอให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลพิจารณาดำเนินคดีกับนายวรยุทธ พร้อมทั้งนำประเด็นเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาด้วย 2.คณะกรรมการได้เสนอข้อบกพร่องของข้าราชการตำรวจจำนวนเดิม 11 ราย และพบข้อบกพร่องใหม่จำนวน 10 ราย ได้มอบหมายให้ผู้บังคับการกองวินัยไปพิจารณาว่าผู้ใดที่เคยลงไปก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะตามกฎหมายจะดำเนินการด้านวินัยซ้อนกัน 2 ครั้งไม่ได้ จึงได้มอบหมายให้จเรตำรวจเป็นประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือเป็นกรรมการสืบสวนทางวินัย 

 3.ได้มีบันทึกแจ้งผบ.ตร.ตามข้อ1พบหลักฐานใหม่ให้กับกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อดำเนินการตามกฎหมายด้วย มีความก้าวหน้า โดยสน.ทองหล่อได้สอบปากคำ พยานผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็ว 4 ปาก พยานผู้เชี่ยวชาญด้านยาเสพติด 4 ปาก เรียบร้อยแล้ว ตามคำแนะนำของคณะกรรมการตรวจมอบข้อเท็จจริง

พลตำรวจโทจารุวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 สน.ทองหล่อได้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อถอนหมายจับเดิม และยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอหมายจับนายวรยุทธในข้อหาใหม่ 3 ข้อหา ดังนี้ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถผู้อื่นเสียหาย มีผู้ถึงแก่ความตาย 2.ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหายและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานในทันที และ3.เสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 (โคคาอีน) โดยผิดกฎหมาย

พลตำรวจโทจารุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขั้นตอนต่อไปหลังจากออกหมายจับแล้ว ตามป.วิ อาญา หรือตามระเบียบเกี่ยวกับคดี ให้แจ้งทะเบียนประวัติอาชญากรเพื่อประกาศสืบจับนายวรยุทธ จากนั้นจะแจ้งหนังสือไปยังกองการต่างประเทศ ให้ประสานกับตำรวจสากล และแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตามระเบียบปฏิบัติ

ด้านพลตำรวจตรีวรวัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของ ตท. วันนี้ได้รับหนังสือจาก สน.ทองหล่อ แจ้งให้ทราบว่ามีการออกหมายจับนายวรยุทธ อยู่วิทยา 3 ข้อหา จึงได้ประสานมายังตท. เพื่อดำเนินการในส่วนการประกาศสืบจับ ทั้งนี้ทาง ตท. เป็นฝ่ายอำนวยการด้านนิติต่างประเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีกรณีที่ผู้ต้องหากระทำความผิดทางคดีอาญาเกิดขึ้นและหลบหนีไปต่างประเทศโดยไม่แน่ชัดว่าหลบหนีไปประเทศใด แนวทางการสืบหา เพื่อนำตัวบุคคลดังกล่าวกลับมาดำเนินคดี เพื่อให้ศาลลงโทษ จะมีขั้นตอนในการทำหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการประสานงานกับกระทรวงต่างประเทศ และขั้นตอนตำรวจสากล

พลตำรวจตรีวรวัฒน์ กล่าวอีกว่า กรณีการออกหมายแดง เพื่อสืบหาแหล่งที่อยู่บุคคลที่ถูกฟ้องแล้วหลบหนีไป มีเจตนารมณ์ที่จะให้ควบคุมตัวเพื่อนำตัวกลับมาฟ้องร้องดำเนินคดีรับโทษต่อศาลตามช่องทางผู้ร้ายข้ามแดน เป็นนัยยะตาม ป.วิอาญามาตรา 141 วรรค 4 กระบวนการทำคำร้องดังกล่าวมีระเบียบที่เกี่ยวข้อง คือ การปฏิบัติเรื่องของการออกหมายสากลสีแดงนั้น ให้ทำขึ้นกรณีที่พนักงานอัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาหรือศาลได้ตัดสินลงโทษผู้กระทำความผิด เมื่อได้รับแจ้งจากพนักงานอัยการ หรือหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใด ให้ตท. พิจารณาร้องขอ ประกาศตำรวจสากลสีแดง ตามหลักเกณฑ์ที่องค์การตำรวจสากลกำหนด ซึ่งต้องเป็นผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องแล้ว มีอัตราโทษเกิน 2 ปี อย่างไรก็ตาม ตท.จะประสานงานกับ สน.ทองหล่ออย่างใกล้ชิด เมื่อพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง แล้วพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหารายนี้แล้ว ตท.จะทำคำร้องไปยังสำนักงานตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดงประกาศสืบจับนายวรยุทธ ต่อไป

พลตำรวจโทจารุวัฒน์ กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบข้าราชการตำรวจพบมีความบกพร่องแต่ไม่ถึงขั้นผิดวินัยร้ายแรง ในจำนวนนี้มีอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าข่ายบกพร่องไม่ควบคุมสั่งการให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการจะเอาผิดกับอดีตตำรวจ ยอมรับว่า หากเข้าข่ายความผิดทางอาญาก็สามารถดำเนินการได้ แต่หากเป็นความผิดทางวินัยก็ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่จะเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขต่อไป ส่วนจะมีใครต้องรับโทษอย่างไรบ้าง ต้องรอผลการสอบสวนของจเรตำรวจพิจารณาก่อน

พลตำรวจโทจารุวัฒน์ กล่าวถึง ผลความเร็วที่เป็นที่สนใจของสังคม ในส่วนของตำรวจยังยืนยันใช้ผลการคำนวณของกองพิสูจน์หลักฐานเป็นหลัก ส่วนผลการสอบเรื่องการคำนวณความเร็ว พบว่ามีความแตกต่างกัน ซึ่งมีทั้ง 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง , 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ผลคำนวณทั้งหมดเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนดแน่นอน ทั้งนี้ยังระบุด้วยว่าเรื่องการทำสำนวนในคดีใหม่นี้ คณะกรรมการฯ ไม่ได้นำพยานเดิมที่อยู่ในสำนวนคดีเก่ามาพิจารณาประกอบเป็นคดีใหม่ เพราะเป็นคดีสิ้นสุดไปแล้ว ส่วนการทำสำนวนคดีใหม่ จะยึดหลักผลการสอบพยานและเทคโนโลยีแทน

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า สำนวนคดีของนายวรยุทธ ตำรวจ สน.ทองหล่อ จะส่งให้อัยการพิจารณาได้ทันในวันพรุ่งนี้(28 สิงหาคม) 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ