ข่าว

กมธ.วิทย์ฯหนุน "จันทบุรี" ฟื้นตัวหลังโควิด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน" รองประธานกมธ.วิทย์ฯ พร้อมคณะทำงาน จับมือฟากวิชาการ หนุนจังหวัดจันทบุรี ฟื้นตัวหลังโควิด เร่งเพิ่มรายได้เกษตรกร พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เผย ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ให้ชาวจันทบุรีคนละ 1 หมื่นบาท ภายในระยะเวลา 6 เดือน

          เมื่อเร็วๆนี้ ณ มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี คณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.วิทย์ฯ) พร้อมด้วย คณะทำงานจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)

 

          ตลอดจนหน่วยงานราชการในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ร่วมประชุมกับคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการ“การยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนจันทบุรีอย่างยั่งยืน”โดยมีศาสตราจารย์ ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานประชุมครั้งนี้

 

          ศาสตราจารย์ ดร. กนก วงษ์ตระหง่าน กล่าวว่า กมธ.วิทย์ฯ มีความตั้งใจที่จะเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีให้ได้คนละ 1 หมื่นบาท ภายในระยะเวลา 6 เดือน ปัจจุบันกระทรวง อว. โดย กมธ.วิทย์ฯ ร่วมกับ สกสว. บพท. วว. และมหาวิทยลัยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีทั้ง 3 มหาวิทยาลัยประกอบด้วย มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ต่างบูรณาการทำงานร่วมกันภายใต้แนวคิดเดียวกันคือ“ใช้งานวิจัยและนวัตกรมเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก    

          "ผ่านการทำงาน 3 โครงการย่อยคือ 1.การพัฒนาสมรรถนะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมผลไม้เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก 2.การเพิ่มศักยภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจและการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ประมงเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน 3. “Chantaburi Hybrid Design Project : นครนวัตกรรมการออกแบบและการผลิตสินค้าเชิงวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์”ศ.ดร.กนก ระบุ         

 

          โดยการหารือการประชุมเพื่อขับเคลื่อนครั้งนี้ กมธ.วิทย์ฯ และคณะ ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ร่วมประชุมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกมังคุด กลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์จักสาน ตลอดจนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอัญมณี เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น พร้อมหาแนวทางการพัฒนาจังหวัดจันทบุรีไปพร้อมๆกัน

 

          อย่างในกรณีของ วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่มังคุดตำบลคมบาง อ.เมือง จ.จันทบุรี เกษตรกร ปัจุบันมีสมาชิกกว่า 40 ราย รวมตัวกันเพื่อแก้ปัญหาพ่อค้าคนกลาง ให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีอำนาจในการต่อรองราคาสินค้า ในช่วงโควิด สถานการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อราคามังคุดมากนัก ทำให้เกษตรกรยังคงมีรายได้ไม่ต่างจากช่วงก่อนโควิดมากนัก

 

        แต่ที่ทางกลุ่มต้องการให้ทางผู้เชี่ยวชาญเข้ามาให้คำแนะนำคือ อยากให้ช่วยมีทีมมาช่วยพัฒนาทั้งในส่วนของขั้นตอนการผลิต เรายังขาดเทคโนโลยีช่วยเก็บมังคุด ตัวช่วยคัดแยกมังคุดในกรณีที่มังคุดมีขนาดแตกต่างกัน การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากมังคุดให้เรา เพื่อวางแผนในอนาคตหากผลมังคุดสดมีราคาต่ำลง     

    ด้านศาสตราจารย์ ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน ได้ร่วมประชุมพร้อมมอบหมายให้ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ช่วยวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาเทคโลยีต่างๆเพื่อสนับสนุนกระบวนการเก็บเกี่ยว และในส่วนของทาง ผศ.เดือนรุ่ง เบญจมาศ นักวิจัยจาก มรภ.รำไพพรรณี หัวหน้าโครงการพัฒนาสมรรถนะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมผลไม้เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก จะเข้ามาช่วยวิสาหกิจชุมชนในการสร้างมูลค่าของผลิตภัณฑ์

 

          อาทิ การสกัดสารแซนโทนบริสุทธิ์ (Purified Xanthone) จากเปลือกมังคุด ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีมูลค่าสูง นิยมนำไปใช้แปรรูปและใส่ในเครื่องสำอาง เวชภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น ทั้งในจากการจัดกิจกรรมลงพื้นที่ศึกษาดูงานเป็นเวลา 2 วัน ทำให้คณะทำงานทั้งในส่วน กมธ.วิทย์ฯ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนักวิจัยในพื้นที่ ได้เข้าใจบริบทปัญหาของพื้นที่มากขึ้น เพื่อจะได้ร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดจันทบุรีให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่มากที่สุด

    กมธ.วิทย์ฯหนุน \"จันทบุรี\" ฟื้นตัวหลังโควิด

      กมธ.วิทย์ฯหนุน \"จันทบุรี\" ฟื้นตัวหลังโควิด

       ศาสตราจารย์ ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานกมธ.วิทย์ฯ 

       กมธ.วิทย์ฯหนุน \"จันทบุรี\" ฟื้นตัวหลังโควิด        

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ