สสจ.เลย เร่งลงพื้นที่สอบสวนโรค หลังมีคนเลยตรวจเจอเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.รามา

จากกรณีที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและ ร.พ.รามาธิบดี ทำการตรวจหญิงชาวไทย 2 ราย ขณะเตรียมตัวจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโรค covid-19 อายุ 34 และ 35 ปี เคยทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มาขอใบรับรองแพทย์ประกอบการเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศโดยห้องปฏิบัติการและผลพบสารพันธุกรรมในปริมาณน้อยของข้อมูลการสอบทั้ง 2 รายไม่มีไข้ ไม่มีอาการป่วยทางเดินหายใจขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งตัวอย่างตรวจยืนยันด้วยวิธีการเพาะเชื้อ

จาก 1 ใน 2 ราย เป็นชาว อ.ปากชม จ.เลย 1 ราย  เพศหญิงอายุ 35 ปี เคยทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2563 เข้ากักตัวที่สถานกักกันที่ทางราชการกำหนดนาน 2 สัปดาห์ ทำการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งไม่พบเชื่อ จึงได้รับอนุญาตเดินทางกลับภูมิลำเนา อ. ปากชม จ.เลย อยู่ที่ภูมิลำเนา 1 เดือน จากนั้นวันที่ 16 ส.ค.2563 เดินทางเข้ากรุงเทพฯโดยรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และวันที่ 18 ส.ค. 2563 ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ covid-19 ผลพบสารพันธุกรรมขณะนี้ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีได้ติดตามตัวมาไว้ดูแลที่โรงพยาบาลแล้ว จากข้อมูลทางระบาดวิทยาคาดว่ามีโอกาสที่จะเป็นการติดเชื้อในประเทศได้น้อยมาก

ด้านนายปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย เปิดเผยว่ากรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ทาง สนง.สาธารณสุขจังหวัดเลย ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ฯ ลงไปทำการสอบสวนโรคที่ภูมิลำเนาของผู้พบสารพันธุกรรมโควิด-19 แล้ว ที่ ต.ห้วยบ่อซืน อ.ปากชม จ.เลย คนในพื้นที่ก็แตกตื่นกันมาก และมีการให้ข้อมูลอีกว่า ผู้ป่วยมีลูกชายที่กำลังเรียนหรือศึกษาอยู่ในอำเภอปากชม 1 คน และใน อ.เมืองเลย อีก1 คน แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีการปฏิบัติตัวกับ 2 คน ดังกล่าวอย่างไร ทราบว่าส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ต่างประเทศไม่ค่อยใกล้ชิดกับบุคคลอื่นมากนัก สำหรับการจะดำเนินการนำตัวกลุ่มเสี่ยงและญาติ ๆ มาทำการตรวจหาเชื้อนั้นต้องรอผลการตรวจรอบ 2 และการแถลงข่าวจากส่วนกลางในช่วงค่ำของวันนี้ก่อนว่าจะดำเนินการว่าจะเชิญมาตรวจหรือกักตัวหรือไม่อย่างไรกับคนใกล้ชิด

บุญชู  ศรีไตรภพ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เลย