ข่าว

ปิดตำนาน ซีอุย ชาวทับสะแกทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำร่างไปฌาปนกิจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปิดตำนาน ซีอุย ชาวทับสะแกทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ซีอุยเป็นครั้งสุดท้ายหวังปิดตำนาน ก่อนนำร่างออกจากพิพิธภัณฑ์ศิริราชไปฌาปนกิจ

วันที่ 20 กรกฎาคม ร.ต.ต.พล พลายสถิตย์ อายุ 50 ปี ข้าราชการบำนาญ อยู่บ้านเลขที่ 135/10 หมู่ 9 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2562 ได้ร่วมกับชาวบ้านกว่า 50 รายใน อ.ทับสะแก ยื่นหนังสือเรื่องร้องเรียนถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้พิจารณาคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้นายซีอุย แซ่อึ้ง ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม และมีฉายามนุษย์กินคน โดยขอให้นำร่างออกจากการจัดแสดงนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ของโรงพยาบาลศิริราช กทม. ซึ่งได้เก็บร่างซีอุยไว้นานกว่า 60 ปี เพื่อนำร่างไว้ศึกษาทางการแพทย์ แต่ไม่เข้าข่ายการนำร่างนายซีอุยไปประจานตามที่บางฝ่ายต้องข้อสังเกต ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าการร้องเรียนครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จ

ปิดตำนาน ซีอุย ชาวทับสะแกทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำร่างไปฌาปนกิจ

ที่ผ่านมาถือว่าชาวทับสะแกได้ร่วมกันปลดพันธนาการให้นายซีอุย หลังจากได้รับแจ้งว่าการร้องเรียนมีความคืบหน้า โดยกรมราชฑัณฑ์จะนำร่างนายซีอุยจากพิพิธภัณฑ์ ไปทำการฌาปนกิจในวันที่ 23 กรกฎาคม นี้ สำหรับผมยอมรับว่าเกิดไม่ทันยุคสมัยของนายซีอุย และไม่ได้เป็นครือญาตินามสกุล “แซ่อึ้ง” ซึ่งในอดีตพื้นที่ อ.ทับสะแกมีหลายตระกูลที่อพยพมาจากเมืองจีนและเคยใช้นามสกุลนี้ แต่ในวันฌาปนกิจชาวทับสะแกบางส่วนจะเหมารถตู้เดินทางไปร่วมพิธีเพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย และล่าสุดผู้ที่ร่วมร้องเรียนถึงคณะกรรมการสิทธิฯ ได้ทำบุญเลี้ยงพระเพื่อทิศส่วนกุศลให้นายซีอุยที่วัดทับสะแกเป้นครั้งสุดท้ายถือเป็นการปิดตำนานอย่างเป็นทางการ ในฐานะที่นายซีอุยมีประวัติเคยมาทำงานรับจ้างที่ อ.ทับสะแก ก่อนจะมีการฌาปนกิจ

ปิดตำนาน ซีอุย ชาวทับสะแกทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำร่างไปฌาปนกิจ

ด้านนายทองพัน ชูรส อายุ 82 ปี รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เห็นด้วยและสนับสนุนให้นำร่างนายซีอุย แซ่อึ้งไปทำการฌาปนกิจ เพื่อให้สิ้นสุดตำนานมนุษย์กินคนนานกว่า 60 ปี สำหรับตนขณะที่อายุ 14 ปี เคยเห็นนายซีอุย มาทำงานรับจ้างในแปลงผักพื้นที่ด้านหลังโรงเรียนอนุบาลทับสะแกในปัจจุบัน ยอมรับว่าเด็กในสมัยนั้นหวาดกลัวมากเนื่องจากนายซีอุย มีลักษณะขรึม พูดน้อย เดินหลังโก่ง ไม่สวมเสื้อในมือชอบถือมีดขอซึ่งไม่มีด้ามจับ แต่ทราบว่านายซีอุยทำงานรับจ้างที่ อ.ทับสะแก ไม่นานจากนั้นย้ายไปที่อื่น

ส่วนตัวเชื่อว่านายซีอุยไม่มีญาติพี่น้องที่เดินทางอพยพมาจากประเทศจีนอาศัยอยู่ใน อ.ทับสะแก สำหรับภาพลักษณ์ของนายซีอุยที่สร้างความหวาดกลัวให้กับบุคคลทั่วไป น่าจะมาจากการนำข้อมูลบางส่วนจากคดีที่เกิดขึ้นในอดีตไปสร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ซึ่งอาจมีการเพิ่มเติมข้อมูลบางประการเพื่อสร้างจินตนาการที่แตกต่างจากการทำสารคดี สำหรับเหตุการณ์ในพื้นที่ อ.ทับสะแกยอมรับว่ามีเพียงเรื่องเล่าของคดีฆาตกรรม รวมทั้งข้อกล่าวหาว่ามีการกินตับ

ภาพ/ข่าว พอใจ จันทนา ข่าวภูมิภาค จ.ประจวบคีรีขันธ์

ปิดตำนาน ซีอุย ชาวทับสะแกทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำร่างไปฌาปนกิจ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ