ข่าว

หยุดโควิด-19 ไม่อยู่ รัฐวิคตอเรียงัดมาตรการใหม่บังคับใส่แมสก์ ฝ่าฝืนปรับกว่า 4 พัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รัฐวิคตอเรีย ในออสเตรเลีย ตัดสินใจใช้มาตรการบังคับใส่แมสก์ ในเมืองหลวงเมลเบิร์น หลังติดเชื้อใหม่พุ่งทำสถิติ ฝ่าฝืนปรับกว่า 4พัน ยืดสถานการณ์ฉุกเฉินอีก 4 สัปดาห์


สถานการณ์ไวรัสโรคโควิด-19 ระบาดระลอกสอง ที่รัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ยังไม่ดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มทำสถิติ 363 รายเมื่อวาน (18 ก.ค.) แดเนียล แอนดรูวส์ นายกรัฐมนตรีรัฐวิคตอเรีย ประกาศมาตรการใหม่วันนี้ว่า ประชาชนที่อาศัยในเมลเบิร์น และมิตเชลล์ ไชร์ จะต้องใส่หน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน มีผลตั้งแต่เวลา 23.59 น. วันพุธ (22 ก.ค.) ที่จะถึงนี้ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามจะถูกลงโทษปรับ 200 ดอลลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 4,400 บาท ) 

นายแอนดรูวส์ กล่าวว่า แมสก์ ผ้าปิดจมูก ผ้าปิดหน้า หรือผ้าพันคอ จะเป็นผ้าเกรดไหนก็ได้ ดีกว่าไม่มีอะไรปิดหน้าเลย เขาหวังว่าจะไม่ต้องออกใบสั่งปรับแม้แต่รายเดียว ขอแค่ประชาชนใช้สามัญสำนึก รวมถึงการใช้หลักปฏิบัติได้ในการใส่หรือไม่ใส่ในบางสถานที่ เช่นเมื่อเข้าไปในธนาคาร หรือวิ่งออกกำลังกาย
 

อย่างไรก็ดี รัฐวิคตอเรียไม่ได้บังคับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และครูที่ทำการสอนในห้องเรียน ต้องสวมหน้ากาก แต่ทุกคนในเขตล็อกดาวน์ รวมถึงนร.มัธยมปลาย และพนักงานออฟฟิศ จะต้องใส่หน้ากากในสถานที่ที่จะต้องใส่ ทั้งนี้ การออกมาตรการบังคับใส่แมสก์ ส่วนใหญ่เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในที่ทำงาน หลังจากพบว่าตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.เป็นต้นมา ผู้ติดเชื้อใหม่ราว 80% มาจากติดเชื้อในที่ทำงาน รวมถึงบ้านพักคนชราเอกชน

รัฐวิคตอเรีย พบผู้ติดเชื้อใหม่นับจากเมื่อวาน 363 ราย ติดเชื้อสะสม 5,696 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 38 ราย พร้อมกันนี้ ทางการประกาศขยายสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปถึง 16 ส.ค. เพื่อให้เอื้อต่อการบังคับใช้มาตรการสวมหน้ากาก 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ