ชาวบ้านอำเภอครบุรีโคราช ร้องฟาร์มหมู ปล่อยน้ำเสียลงคลอง

วันที่ 16 กรกฏาคม 2563 จากกรณี นางนิชาพิมญชุ์ นันท์นิธิภูวเดช ได้โพสต์เรื่องราว ลงกลุ่มข่าวชื่อดังของโคราช ผ่านทาง facebook โดยมีข้อความระบุว่า ท่านผู้ว่าโคราชช่วยด้วยชาวบ้านจระเข้หิน อำเภอครบุรี ผวาน้ำเน่าเสีย ชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร ปล่อยน้ำเสียลงคลอง ปลาตายเป็นแพ ใครผิดผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณคลองจระเข้หิน บ้านจระเข้หินหมู่ที่ 3 ตำบลจระเข้หินอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา พบชาวบ้านผู้เดือดร้อนได้นำไปดูจุดบริเวณฝายชะลอน้ำ ซึ่งพบว่าน้ำเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็นส่งผลให้ ปลาลอยตายตาม เป็นจำนวนมาก และยังพบว่าน้ำจำนวนดังกล่าวจะไหลออกไปตามคลองธรรมชาติเพื่อให้เกษตรกรได้ดูดน้ำไว้ใช้ทางการเกษตร อีกทั้งยังพบว่าบริเวณฝายจะมีเด็กน้อยมาเล่นน้ำคลายร้อนอยู่เป็นประจำ และเกรงว่าเด็กจะได้รับอันตรายจากน้ำเน่าเสียดังกล่าว

นางนิชาพิมญชุ์ ชาวบ้านผู้โพสต์ facebook เปิดเผยว่า ระยะหลังพบว่าน้ำที่คลองจระเข้หิน จากเดิมที่ใสสะอาดจะมีเด็กน้อยมาเล่นน้ำอยู่เป็นประจำ และภาคการเกษตรก็จะอาศัยน้ำดังกล่าวรดน้ำ แต่ระยะหลังพบว่าน้ำมีสีเขียวขุ่น มีตะไคร่น้ำ มีกลิ่นเหม็น และยังพบว่าส่งผลให้ปลาตามธรรมชาติลอยตายเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติ โดยคาดการณ์ว่าน่าจะเกิดจากฟาร์มเลี้ยงหมูในพื้นที่ แอบลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองธรรมชาติ จนทำให้เกิดผลกระทบ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ และขอเข้าไปสำรวจเกี่ยวกับการปล่อยน้ำเสียดังกล่าว นายภัทร ระวังครบุรี อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า หลังจากพบว่ามีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับคลองจระเข้หิน เกิดน้ำเน่าเสียระบบนิเวศเสียหายจนทำให้ปลาลอยตายเป็นจำนวนมาก หลังจากนี้จะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นอบต เทศบาล เพื่อทำหนังสือเข้าไปดูฟาร์มหมู ที่ชาวบ้านคาดการณ์ว่าน่าจะเกิดจากการปล่อยของเสียลงคลองน้ำ โดยจะเข้าไปตรวจสอบเส้นทาง ของการปล่อยน้ำเสียในพื้นที่ว่ามีการบริหารการจัดการเช่นใด

นายสุจริต รัตนธรรม อายุ 68 ปี เปิดเผยว่า ฟาร์มหมูของตนมีหมูอยู่ประมาณ 100 กว่าตัว ทั้งพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และลูกหมู โดยขี้หมูนั้นก็จะมีการบริหารจัดการโดยมีบ่อพักเก็บ หรือบ่อแก๊สชีวภาพ แต่ก็ยอมรับว่า อาจจะมีน้ำเสียหลุดรอดลงลำคลองบ้าง แต่ก็กำลังหาทางแก้ไขรวมไปถึงกลิ่นเหม็นดังกล่าวด้วย โดยที่ผ่านมาก็พบว่ามีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบอยู่เป็นประจำ และขอรับปากว่าจะรีบดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเกิดความเดือดร้อน

ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา