ชาวประมงพื้นบ้านบ่ออิฐโวย เรือใหญ่เข้ามาวางลอบปูม้าชายฝั่งแย่งพื้นที่ทำมาหากิน

ในช่วงนี้ ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกคลื่นลมไม่รุนแรงมีเพียงฝนตกเป็นบางแห่งเท่านั้น  ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา  ได้นำเรือประมงพื้นบ้านออกทำการประมงวางลอบจับปูม้า เนื่องจากในช่วงนี้เป็นฤดูกาลของปูม้า บริเวณชายฝั่งจังหวัดสงขลามีปูม้าชุกชุม  ชาวประมงพื้นบ้านนำเรือออกไปกู้ลอบปูม้าที่วางทิ้งไว้ในทะเลทั้งคืน ทำการเก็บปูม้าในลอบเพื่อนำปูกลับเข้าฝั่ง   ส่วนลอบก็นำเหยื่อซึ่งเป็นปลานิลสับใส่กลับเข้าไปในลอบและวางทิ้งไว้ที่จุดเดิมและจะมากู้ตอนเช้าในวันรุ่งขึ้น หลังจากนำเรือกลับเข้าฝั่งก็นำปูม้าไปขายส่งแม่ค้าที่มารับซื้อแบบตัวเป็นๆจะได้ราคาดี

สำหรับในพื้นที่บ้านบ่ออิฐ ปัจจุบันนี้จะหันมาใช้ลอบวางจับปูม้าแทนอวน เนื่องจากมีความสะดวกกว่าการวางอวนปู กาววางอวนปูเมื่อติดปูจะแกะจากอวนยากและต้องใช้เวลา ทำให้ปูตายหมด หากใช้ลอบวางดักปูจะได้ปูเป็นๆ โดยนำมาใส่ใต้ท้องเรือที่มีน้ำทะเลหรือใส่ถังที่มีน้ำทะเลเตรียมไว้ เนื่องจากเมื่อกู้ลอบขึ้นมาใช้เวลาไม่นานก็กลับเข้าฝั่งได้เลยปูยังเป็นๆ

ในขณะเดียวกัน ชาวประมงพื้นบ้านบ้านบ่ออิฐที่วางลอบปูม้ากำลังประสบปัญหานอกเหนือจากต้องเผชิญกับคลื่นลมในทะเลแล้ว  ยังต้องเจอกับปัญหาใหญ่ที่จะต้องขอความช่วยเหลือให้เรือตรวจการณ์ของกรมประมงเข้ามาดำเนินการอย่างเร่งด่วน ก็คือ ขณะนี้มีเรือประมงวางลอบปูขนาดใหญ่หลายลำ มาทำการวางลอบปู บริเวณชายฝั่งในเขตที่ชาวประมงพื้นบ้านวางลอบปูอยู่ เนื่องจากเรือขนาดใหญ่ใช้ลอบวางดักปู 4,000-5,000 ลูก ส่วนเรือประมงพื้นบ้านใช้ลอบเพียง 100-200 ลูกเท่านั้น

อยากให้กรมประมงดำเนินการกำหนดเขตให้เรือวางลอบปูขนาดใหญ่ ออกไปให้ห่างจากชายฝั่งที่เรือประมงพื้นบ้านวางลอบปูทำมาหากินอยู่เนื่องจากเรือใหญ่ใช้เครื่องกว้านดึงลอบขึ้นมา หากติดลอบของชาวประมงพื้นบ้านจะถูกตัดทิ้งหมด ทำให้ลอบได้รับความเสียหายและสูญหายเป็นการทำลายเครื่องมือทำมาหากินของชาวประมงพื้นบ้านด้วย วอนกรมประมงส่งเรือตรวจการณ์ประมงเข้ามาตรวจสอบด้วย

นภาลัย   ชูศรี   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  จังหวัดสงขลา