5 ผู้ต้องคดีอาศัยช่องว่างระหว่างแยกกักตัว 14 วันก่อนเข้าเรือนนอน แหกอาคารเรียนหลบหนีจากเรือนจำอำเภอสว่างแดนดิน
จากเหตุผู้ต้องคดีหลบหนีออกจาก เรือนจำอำเภอสว่างแดนดิน ตำบลหนองหลวง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เมื่อเช้ามืดวันนี้ (1 พฤษภาคม 2563) เป็นผู้ต้องคดีชาย จำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1. นายพัฒพงษ์ เกตุคำใส ผู้ต้องคดีครอบครองยาบ้า 30 เม็ด 2. นายสุรยันต์ สุพรรณประเสริฐ ผู้ต้องหาคดีครอบครองยาบ้า 177 เม็ด 3. นายภาณุพงษ์ โคตรชมพู ผู้ต้องหาคดีครอบครอง ยาบ้า 1,539 เม็ด 4. นายอนันต์ หลักคำ ผู้ต้องหาคดีครอบครอง ยาบ้า 283 เม็ด ยาไอซ์ อีก 32 กรัม และ 5. นายวัฒนชัย พันภักดี ผู้ต้องคดีโทษทำให้เสียทรัพย์ โดยทั้งหมดเป็นผู้ต้องคดี ยังไม่ใช่ ผู้ต้องขัง หรือ นักโทษ แต่อยู่ระหว่างการฝากขัง ยังไม่มีการตัดสินคดี กำลังจะครบกำหนดการกักตัว 14 วัน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ซึ่งถูกกักตัวดูอาการรวมทั้งหมด 21 คน
อ่านข่าว - อัยการสรุปรอบ 1 เดือน ฟ้องคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 21,426 คน
ตลอดทั้งวันได้มีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โดยมี นายสมมาตย์ สุราช ผู้บัญชาการเรือนจำ ประธานเขต 4 นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอสว่างแดนดิน ว่าที่ร้อยตรี รวยรุ่ง ใครบุตร นายอำเภอสว่างแดนดิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจสว่างแดนดิน ร่วมประชุมและติดตามเหตุการณ์จากชุดเฉพาะกิจ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และชุดปฏิบัติการพิเศษ ประจำเรือนจำกลางภาค 4 ที่ลงพื้นที่ติดตามหาข่าวเบาะแสของผู้ต้องคดีที่หลบหนี แต่ยังไม่มีรายงานคืบหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานมูลเหตุจูงใจผู้ต้องคดีหลบหนี น่าจะมีการวางแผนกันมาก่อน เพราะวันนี้จะครบกำหนดการกักตัว 14 วัน ก่อนจะถูกนำเข้าสู่แดนขังเรือนนอนรวมกับผู้ต้องขังทั่วไป ซึ่งการหลบหนีจะทำได้ยาก จากการประมวลภาพ พบว่า อาคารเรียนที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวอยู่ติดกับกำแพงฝั่งทิศตะวันออก กลุ่มผู้ต้องคดีทั้ง 5 คน จาก 21 คน ในอาคารกักตัว ได้ต่อตัวกันขึ้นไปทำลายฝ้าเพดานห้องแล้วมุดหนีไปตามคานเพดาน ไปทะลุที่ห้องสมุด ก่อนจะปีนขึ้นไปที่หลังคาอาคาร และต่อตัวอีกครั้งเพื่อปีนไปที่กำแพงเรือนจำที่มีความสูงประมาณ 5 - 6 เมตร แล้วใช้ผ้าพลาสติกที่เตรียมมา ซึ่งเป็นผ้าพลาสติกที่ทางเรือนจำนำมากั้นไว้ระหว่างผู้กักตัว และผู้นำอาหารมาส่งในระหว่างการกักตัว
ใช้วิธีโยนให้พาดกับรั้วลวดหนามบนกำแพงที่มีการปล่อยกระแสไฟไว้ตามระบบป้องกันการรักษาความปลอดภัย จากนั้นหย่อนตัวลงมาที่กำแพงด้านนอก แต่ในที่เกิดเหตุพบผ้าพลาสติกตกลงมาที่พื้น คาดว่าระหว่างที่หย่อนตัวลงมีคนตกลงมาและอาจได้รับบาดเจ็บด้วย จากนั้นผู้ต้องคดีได้อาศัยความมืด พรางตัว หลบการตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนหอรักษาการณ์ คลานมาลอดรั้วลวดหนามที่เป็นแนวป้องกันด้านใน และข้ามถนนมาที่รั้วป้องกันด้านนอกทิศเหนือที่อยู่ติดกับถนนนิตโย เส้นทางสายสกลนคร - อุดรธานี ก่อนจะหลบหนีไป
สำหรับเรือนจำอำเภอสว่างแดนดินนั้นมีเนื้อที่ 21 ไร่ 3 งาน 22 ตารางวา มีนักโทษทั้งหมด 2,076 คน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี
ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอสว่างแดนดิน กล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะผู้ต้องคดีที่หลบหนีไม่ใช่นักโทษ แต่เป็นผู้ต้องหาที่นำมาฝากขัง อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และศาลยังไม่มีการตัดสินโทษ ซึ่งก่อนเข้าเรือนจำก็มีมาตรการให้มีการกักตัว 14 วันก่อนที่จะส่งเข้าเรือนนอน แต่จุดเกิดเหตุเดิมเป็นอาคารเรียนในเรือนจำซึ่งดัดแปลงให้เป็นสถานที่กักตัวชั่วคราว ห้องมีขนาด 20 ตารางเมตร สูง 2.40 เมตร สามารถจุคนได้ 20 คน ซึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาที่นำมากักตัวครั้งนี้มีด้วยกัน 21 คน และได้มีการหลบหนีไป 5 คน จึงขอความร่วมมือจากประชาชนที่พบเบาะแสผู้ต้องหาหรือเห็นบุคคลที่มีท่าทางพิรุธ โดยผู้ต้องคดียังไม่ได้เข้าสู่การรับโทษในเรือนจำ ยังไม่ตัดผม และเมื่อถอดชุดออกและเปลี่ยนชุดใหม่ก็จะไม่มีสิ่งที่บ่งบอกลักษณะเป็นผู้ต้องขัง หากใครพบเบาะแสทางราชการได้ตั้งรางวัลนำจับไว้คนละ 3 หมื่นบาท
--------------------
ข่าว นรากร เวชกามา - สกลนคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง