ตำรวจชุด EOC รวบหนุ่มวัย 23 ปี เอาสติกเกอร์ Buriram Healthy สัญลักษณ์ปลอดโรคติดบัตรประชาชนของคนบุรีรัมย์ ไปโพสต์โซเชียลมีเดีย พร้อมข้อความลักษณะฝ่าฝืนและหมิ่นประมาทการทำงานของคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อบุรีรัมย์ แจ้งข้อหาหนัก
วันนี้ (30 เม.ย.2563) เวลา 10.40 น. นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ , พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ , นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์/หน.ชุด EOC จังหวัดบุรีรัมย์ , พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์/รอง หน.ชุด EOC จว.บุรีรัมย์ , พ.ต.อ.สาธิต สถิตถาวร ผกก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติ ณ ศูนย์ EOC สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตบุรีรัมย์
หลังจากเมื่อวันที่ 29 เม.ย.2563 เวลาประมาณ 10.00 น. คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยและบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COVID–19 ได้ร่วมกันตรวจสอบพบว่ามีผู้โพสลงในโซเชียลมีเดีย อินสตราแกรมชื่อ atthadet_3 ตรวจสอบชื่อผู้ใช้เฟสบุคชื่อ Atthadet Gunhator เป็นผู้โพส ด้วยข้อความว่า
“จะออกนอกจังหวัด ไปเที่ยวไหนก็ได้ คุณดึงออก ผมก็ติดใหม่ แค่นั้นเอง” “แค่ดูแลตัวเองป้องกันตัวจากโควิด กูมีปัญญาดูแลตัวเองอยู่จ๊ะ” “นโยบายบุรีรัมย์แม่ง...” พร้อมเอาภาพสติ๊กเกอร์ Buriram Healthy จำนวน 25 ดวง ถ่ายบนฝ่ามือซึ่งหมายถึงมีอยู่ติดตัวถึง 25 ตัว จากที่มีสิทธิ์ได้รับคนละ 1 ตัวเท่านั้น
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงออกถึงการต่อต้าน ไม่เห็นด้วย พร้อมแสดงให้บุคคลอื่นทราบว่าตนเองสามารถหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 13 ได้ เป็นเหตุให้ให้ประชาชนสับสนและไม่เคารพกฎเกณฑ์ ระเบียบ คำสั่งของทางราชการ
เมื่อสืบสวนพบว่าผู้โพสต์คือนายอรรถเดช กัณหาต้อ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 32 ม.1 ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ โดยให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองได้เดินทางไปที่บ้านนายสุธรรม หลอดทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ท่าโพธิ์ชัย แล้วพบเห็นสติกเกอร์ Buriram Healthy จำนวน 25 ดวง วางอยู่ภายในบ้านของนายสุธรรมฯ จึงได้นำสติกเกอร์ดังกล่าวมาถือและถ่ายภาพ นำไปลง อินสตราแกรม พร้อมลงข้อความดังกล่าวข้างต้นด้วยตนเอง เนื่องจากรู้สึกไม่พอใจที่ตนเองไม่สามารถเดินทางไปทำบุญวันเกิดได้ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2563 โดยไม่ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์กล่าวว่า ตามข้อกฎหมายการกระทำดังกล่าวของนายอรรถเดชฯ ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1) “ผู้ใดโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
ภาพ/ข่าว อุดร ลาดธรรมา ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง