เข้าใจว่าไม่มี! เจ้าของร้านให้ป้าวัย 54 ติดเงินซื้อของที่ร้านนานจนกว่าจะมีจ่าย

 

 

 

 

วันที่ 24 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพนิดา วิโสรัมย์ อายุ 68 ปี เจ้าของร้านขายชองชำในหมู่บ้านที่หมู่ 3 ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ และให้ น.ส.สุนันท์ หะพินรัมย์ อายุ 54 ปี เชื่อสินค้าภายในร้านเป็นนมเด็ก ขนม และสินค้าจำเป็นในครัวเรือน ได้ออกมาระบุว่า

 

 

 

หลังทราบข่าวว่าเงินในบัญชีธนาคารออมสิน ของ น.ส.สุนันท์ หะพินรัมย์ หายไปจำนวน 5,000 บาท และคาดว่า น่าจะเป็นพนักงานเปลของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเป็นคนกดเงินเอาไป เพราะได้วานให้ไปกดเงินที่ตู้ ATM หน้าโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

 

 

โดยนางพนิดา กล่าวว่า ครอบครัวนี้มีฐานะยากจน มีลูกสาวคนเดียวไปทำงานต่างจังหวัด ก่อนหน้านี้ได้เอาลูกชายวัย 5 ขวบและลูกสาววัย 2 ขวบ มาให้แม่เลี้ยง ซึ่งลูกสาวจะส่งเงินมาให้เดือนละ 1,000-2,000 บาท ซึ่งไม่พอใช้อยู่แล้ว ทุกครั้งที่ขาดเขิน ก็จะมาขอเชื่อสินค้าไป ตนก็ให้ตลอด แต่ละครั้งประมาณ 3-4 เดือนลูกสาวก็จะส่งเงินมาจ่ายหนี้ให้

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นช่วงเวลาที่ลูกสาวนายสุนันท์ จะโอนมาให้ แต่ไม่คิดว่าจะถูกตัดตอนในลักษณะนี้ ส่วนตัวเห็นใจและจะยืดเวลาให้ไปอีกจนกว่าลูกสาวจะหาเงินมาใช้หนี้ที่ค้างไว้ได้ เพราะเห็นใจจริงๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขณะที่ น.ส.วัฒนา หะพินรัมย์ อายุ 30 ปี หลานสาว เล่าว่า หลังเกิดเหตุนายต้น ไม่ได้มาทำงานเลย ซึ่งมันผิดสังเกต ได้รับคำตอบเพียงคำเดียวจากแฟนของนายต้น ว่า”ไม่ได้เอาเงินไป”ที่ผ่านมาป้าจะวานคนอื่นไปกดเงินให้เป็นประจำ และทุกครั้งจะให้ค่าเสียเวลาครั้งละ 20-30 บาท ถ้าเขาเอาไปจริง ก็ขอเอามาคืนเพราะตอนนี้ไม่มีเงินไปใช้หนี้ร้านค้า คงจะไม่กล้าไปเชื่อสินค้าอีก เพราะยังค้างของเก่าอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว อภิชาติ ศิริสุข ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์