กรุงเก่าดุ วันเดียวพบผูัเสียชีวิต 2 ราย ปริศนาลอยกลางแม่น้ำตรวจสอบพบเป็นพ่อลูกกันตกงานกำลังหางานทำ
เมื่อเวลา 07:30 น. วันที่ 21 เมษายน 2563 ร.ต.อ พิทยา ศรีเรือง รอง สว.(สอบสวน) สภ. พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบศพเด็กหญิง อายุ ประมาณ 5 ถึง 10 ปี ลอยอยู่กลางในแม่น้ำป่าสัก และมีชาวบ้านได้ลากนำมาผูกไว้ที่ท่าน้ำหน้า วิทยาลัยการต่อเรือ ต. หัวรอ อ. พระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาล พระนครศรีอยุธยา และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ พบศพเด็กเพศหญิง อายุประมาณ 5-10 ปี สวมเสื้อคอกลม สี เขียวอ่อน กางเกงขายีนขาสั้นสีดำ สภาพขึ้นอืดตาถลน ลิ้นจุกปาก ลอยน้ำคว่ำหน้า อยู่ท่าน้ำหลังจากมี ชาวบ้านที่อยู่บนเรือสินค้าผ่านมาพบลอยอยู่กลางน้ำจึงลากเข้าหาฝั่ง ตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเด็ก หญิงคนดังกล่าวน่าจะอายุประมาณ 5 ขวบ ถึง 10 ปี และเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายเนื่องจาก สภาพศพค่อนข้างขึ้นอืด ไม่พบเอกสารติดตัว
ต่อมา เมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท ภาคภูมิ วัฒนศิริ รองสว(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งพบศพเพศชายลอยน้ำอยู่กลางแม่น้ำ เจ้าพระยา ม.8 ต. สำเภาล่ม อ. พระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา
ในที่เกิดเหตุ กลางแม่น้ำเจ้าพระยา พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สวมใส่เสื้อคอกลมสีดำด้านหน้าสกรีน ตัวหนังสือ fb ไม่สวมใส่กางเกง อยู่ในสภาพขึ้นอืดลิ้นจุกปาก ตาถลน เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจได้นำเรือยนต์ออกจากฝั่งนำร่างผู้เสียชีวิต เข้าฝั่งทางด้านท่าน้ำวัดพุทไธศวรรย์ แพทย์โรงพยาบาล พระนครศรีอยุธยาตรวจสอบ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าอาจจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน เอกสารในตัวไม่พบและอยุ่ห่างจากจุดพบศพเด้กผู้หญิงคนแรก ประมาณ 2 กิโลเมตรเวลาห่างกัน 2 ชั่วโมง จึงให้ทางเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยานำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเบื้องต้นโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ. ปทุมธานีและจะติดตามหาญาติ
ต่อมา ทางด้าน ร.ต.อ สมชาย ทองนพ รองสว.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่หาข่าวเดินทางไปที่วัดธรรมนิยม ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียงกับที่พบผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเด็กหญิงรายแรก ไปพบกับ นางสาวบุษยา พรหมมากร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149/2 หมู่ 1 ต.หัวรอ อ. พระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับริมแม่น้ำป่าสัก เล่าว่า
เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันอาทิตย์ตนเองได้นอนอยู่บนบ้านแล้วได้ยินเสียงผู้ชายคุยกับเด็กผู้หญิงอยู่ข้างบ้าน เสียงดัง พอจับใจความได้ว่าเหมือนเด็กผู้หญิงพูดว่าพ่ออย่าทิ้งหนู และร้องไห้อยู่ตลอด พ่อจึงได้บอกให้ลูกสาวว่าเงียบไม่ต้องร้อง แต่เด็กก็ยังร้องไห้อยู่ตลอดเวลาสักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกระโดดน้ำลงไป เด็กผู้หญิงก็ร้องไห้แล้วพูดว่าพ่ออย่าทิ้งหนูนะ อย่ากระโดดลงไป จากนั้นเสียงก็เงียบหายไปเลย
ตนจึงคิดว่าทั้งสองคนอาจจะเดินออกไปแล้ว ก็ไม่ได้สนใจอะไรจนมาทราบข่าวว่าพบศพสองพ่อลูกจมน้ำเสียชีวิตแล้ว ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายนั้นผู้ตายได้นำเสื้อผ้าใส่อยู่ในถุงดำ วางไว้อยู่ภายในกำแพงวัด เจ้าหน้าที่จึงสอบถามคนแถวนั้น จึงทราบว่าพ่อลูกคู่นี้ได้มานอนอยู่ที่วัดก่อนที่จะหายตัวไปเป็นเวลา 2 วันแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำอาชีพอะไร แต่เคยถามว่ามานอนทำไหมคนเป็นพ่อบอกว่ากำลังหางานทำอยู่ไม่มีงานทำ ตรวจสอบภายในกระเป๋าสตางค์พบ บัตรประชาชนถ่ายเอกสาร ระบุ ชื่อ นาย สมศรี แทนโหมก อายุ 40 ปี และยังพบใบแจ้งเกิด ถ่ายเอกสาร ระบุชื่อ เด็กหญิงแอนนา แทนโหมก อายุ 5 ขวบ ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 15 ต.บรบือ อ.บรบือ จ. มหาสารคาม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุนั้น อาจเป็นปัญหาทางครอบครัว ซึ่งจะติดต่อ โทรศัพท์หา แม่ของเด็กหญิงอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุ ของการก่อเหตุต่อไป
เกียรติยศ ศรีสกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.พระนครศรีอยุธยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง