ข่าว

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

15 เม.ย. 2563

นี่หรือลูกศิษย์ตอบแทนบุญคุณ ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ถูกศิษย์แต่กลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

วันที่ 15 เมษายน 2563 เวลา 12.30 น. นางธนวรรณ ชุมแวงวาปี อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี อยู่ที่บ้านหนองสวรรค์ ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้ น.ส.น้ำฝน  อายุ 39 ปี  ชาว ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ แต่เมื่อลูกศิษย์เรียนจบกลับไม่ใช้หนี้กองทุน ทำให้ถูกกรมบังคับคดีอายัดที่ดิน 53 ตารางวา ที่เตรียมจะสร้างบ้าน  ทำให้เดือดร้อนอย่างหนัก

นางธนธรรณ เปิดเผยว่า ตนรับราชการที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ตั้งแต่เริ่มต้นจนเกษียณอายุราชการ ไม่เคยย้ายไปที่ไหน ตนเป็นครูที่ปรึกษาชั้น ปวช.1 ต่อมามี น.ส.น้ำฝน  นักศึกษาชั้น ปวช.1 ซึ่งเป็นนักศึกษายากจน พ่อแม่ไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ ต้องอาศัยอยู่กับยาย ป้าและลุง  ไม่มีเงินเรียน จึงได้ช่วยให้ลูกศิษย์  ด้วยการกู้เงินกองทุน กยศ.และตนเป็นผู้ค้ำประกัน ปีแรก 18,628 บาท  ส่วนปีถัดมาจนถึงจบปริญญาตรีมีญาติของ น.ส.น้ำฝน เป็นคนค้ำ รวมผู้ค้ำทั้งหมด 4 คน เงินกู้ทั้งหมด 159,195 บาท นอกจากนี้ตนยังได้ทำเรื่องขอทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรีให้อีก ซึ่งตนจะค้ำประกันให้ลูกศิษย์ที่กู้เงิน กยศ.รวมแล้วประมาณ 10 คน

หลังเรียนจบชั้น ปวส.และไปเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี จนจบ ตนก็ไม่เคยพบ น.ส.น้ำฝนอีกเลย กระทั่งตนเกษียณอายุราชการ ตนต้องออกจากบ้านพักข้าราชการไปอยู่กับลูกสาวที่กรุงเทพมหานคร แต่รู้สึกไม่ชอบและเพราะไม่คุ้นเคยกับสังคมเมืองหลวงจึงกลับมา จ.อุดรธานี เพื่อจะมาสร้างบ้านบนที่ดิน 53 ตารางวา ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งได้ซื้อไว้ขณะรับราชการ หวังว่าเมื่อเกษียณราชการแล้วจะมาสร้างบ้านหลังเล็กๆ ไว้อยู่อาศัยในยามชรา ช่วงยังไม่ได้สร้างบ้านได้ไปขออาศัยอยู่กับลูกศิษย์ที่เคยสอน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ชวนกันมาดูที่ดิน เพื่อจะถมดินเตรียมสร้างบ้าน

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

 

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

 

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

เมื่อมาถึงที่ดินแปลงดังกล่าว ก็ต้องตกใจ เพราะมีหนังสือของกรมบังคับคดี ติดประกาศไว้ที่รั้ว มายึดที่ดินแปลงนี้แล้ว เพื่อขายทอดตลาดตามราคาประเมิณตารางวาละ 1 หมื่นบาท 53 ตารางวา 5.3 แสนบาท ตนจึงไปสอบถามที่สำนักงานบังคับคดีอุดรธานี จึงทราบว่าเป็นคดีที่ กยศ.ฟ้อง น.ส.น้ำฝน ไม่ใช้หนี้ กยศ. รวมเป็นเงินต้นและดอกเบี้ย 238,583 บาท  กระทั่งกรมบังคับคดีตามยึดทรัพย์ผู้ค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งมีทั้งหมด 4 คน รวมทั้งตนด้วย แต่ผู้ค้ำรายอื่นซึ่งเป็นญาติ น.ส.น้ำฝน ไม่มีทรัพย์สินให้อายัดหรือยึด บางคนก็เสียชีวิตแล้ว  มีแต่ตนเพียงผู้เดียวที่มีทรัพย์สินจึงถูกอายัดที่ดินแปลงดังกล่าว

ตนจึงไปที่สำนักงานบังคับคดี จ.อุดรธานี ขอดูรายละเอียดการกู้ กยศ. ของ น.ส.น้ำฝน พบว่าหลังเรียนจบปริญญาตรี น.ส.น้ำฝน ต้องจ่ายหนี้กองทุน กยศ. เดือนแรกในวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 จนถึงงวดสุดท้ายวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 เดือนละ 1,800 บาท รวม 15 ปี แต่ปรากฏว่า น.ส.น้ำฝน จ่ายหนี้ถึงวันที่ 5 กันยายน 2555 รวม 8 ปี หลังจากนั้นก็ไม่ยอมจ่ายอีกเลย ทำให้มีหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยคงเหลือ 238,583 บาท  หลังทราบเรื่องทั้งหมด ก็ได้พยายามติดต่อ น.ส.น้ำฝน หรือภัทรปภา แต่ติดต่อไม่ได้ จึงไปหาแม่ น.ส.น้ำฝน ที่บ้าน ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี

นางธนวรรณ เล่าต่อว่า เมื่อไปถึงพบแม่และน้องชายของ น.ส.น้ำฝน โดยแม่เล่าว่าลูกสาวไปทำงานอยู่ประเทศญี่ปุ่น ส่งเงินมาเลี้ยงครอบครัว สร้างบ้าน ซื้อรถ ซื้อทอง ไม่ได้ขัดสน เมื่อทราบเรื่องลูกสาวไม่ใช้หนี้ กยศ.จนครูผู้ค้ำประกันต้องถูกอายัดที่ดิน  น้องชายจึงวีดีคอลไปหา น.ส.น้ำฝนที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง น.ส.น้ำฝนบอกให้แม่เอาที่ดินไปจำนอง เอาเงินไปใช้หนี้ ตนจึงมีความหวัง จึงกลับ้านมานั่งรอความหวังว่าลูกศิษย์จะใช้หนี้ แต่ก็ไม่มีการติดต่อกลับมา จึงเดินทางไปพบแม่ น.ส.น้ำฝนเป็นครั้งที่ 2

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

 

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

 

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

 

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

นางธนวรรณ เล่าอีกว่า เมื่อไปถึงบ้านพบแม่ น.ส.น้ำฝน ครั้งนี้ผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ แม่ลูกศิษย์พูดยืนยันเพียงคำเดียวว่าไม่มีเงินใช้หนี้ และเมื่อน้องชายวีดีคลอไปหา น.ส.น้ำฝนกลับไม่ยอมพูด และปิดโทรศัพท์หนี น้องชายจึงเสนอให้ขายรถบิ๊กไบค์ที่พี่สาวซื้อให้ไปใช้หนี้ แต่แม่กลับไม่ยอม ทำให้ตนหมดหนทาง จึงต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกศิษย์ ที่ สภ.กุดจับ จ.อุดรธานี  เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563  และมาพบสื่อมวลชน ให้นำเสนอข่าวฝากไปถึงลูกศิษย์

อยากบอกให้ลูกศิษย์เข้าใจว่า ให้มาพูดความจริงและช่วยกันแก้ปัญหา ที่ผ่านมาครูช่วยลูกศิษย์แก้ปัญหา หลังจากที่ลูกศิษย์สบายแล้ว อย่าทิ้งภาระให้กับครู ที่เป็นคนช่วยเหลือมาตลอด ให้มาช่วยเอาที่ดินที่ถูกศาลยึดจากผลของการที่เขากู้ที่จ่ายหนี้  ให้เอาออกมาก่อน เพราะศาลจะขายทอดตลาด เอาเงินไปใช้หนี้ของเขา ให้มาแก้ปัญหาด่วน ถึงแม้ครูจะถูกยึดที่ดิน ครูก็จะฟ้องเอาหนี้คืน เขาต้องได้จ่ายอยู่แล้ว อย่างไรเขาก็หนีไม่พ้น อยากให้เขาเข้าใจในส่วนนี้ อย่าหลบเลย และอยากฝากถึงพ่อแม่ลูกศิษย์ ให้เห็นใจ ขอให้ช่วยแก้ปัญหาด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากลูกหลานเขา มันสร้างความเดือดร้อนให้กับครู ซึ่งเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือเขามาตลอด ตั้งแต่เข้าไปเรียน กู้ กยศ. ก็เป็นคนค้ำ และหาทุนให้เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ด้วยความสงสารลูกศิษย์อยากให้ได้เรียน  เมื่อมีโอกาสก็อย่าผลักภาระให้กับครูนักเลย เขามีบ้านให้แม่อยู่ แต่ครูไม่มีบ้านอยู่”

นางธนวรรณ เล่าตบท้ายว่า  ไม่เคยคิดที่จะต้องไปแจ้งความดำเนินคดีลูกศิษย์ ไม่อยากทำ แต่เพราะเดือดร้อนหนัก อยากให้ลูกศิษย์เห็นใจครู และออกมารับผิดชอบหนี้ของตัวเอง ไม่ใช่ให้ครูที่ช่วยเหลือมาตลอดต้องมาชดใช้หนี้สินแทน จนเดือดร้อนถูกยึดที่ดินผืนสุดท้าย แทบจะไม่มีที่ซุกหัวนอนเช่นนี้ อย่าตอบแทนพระคุณครูอาจารย์ที่ช่วยเหลือมาแบบนี้ เงินที่กู้ยืมเรียนเป็นเงินหลวง เป็นเงินแผ่นดิน ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ยืมแล้วต้องคืน ถ้าไม่คืนบาปกรรมมันจะติดตัวไปจนตายส่งผลไปกับคนใกล้ชิด

 

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

 

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

 

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

 

น้ำตาเรือจ้าง ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้ ศิษย์เรียนจบกลับเบี้ยวหนี้จนถูกยึดที่ดิน

กฤษดา จันทร์ดวง  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจ.อุดรธานี