โจ๋เชียงใหม่ไม่กลัวเคอร์ฟิว ยังซิ่งรถจักรยานยนต์รายวัน แถมซ้อนท้ายเย้ยเจ้าหน้าที่ วันเดียวตำรวจรวบได้ 28 ราย ส่งตัวดำเนินคดี
วันที่ 10 เมษายน 2563 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้ทางตำรวจเชียงใหม่ และทหาร ตร.จราจรเชียงใหม่ และฝ่ายปกครอง ได้จับกุมผู้ที่ฝ่าฝืน 28 ราย (รวมสะสม 3-10 เม.ย.63 จับได้ 272 ราย) ก่อนส่งตัวดำเนินคดี
ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งมีแนวโน้มความรุนแรงของการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นจนนำไปสู่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาล แต่สถานการณ์แพร่ระบาดยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมีประกาศรัฐบาลฉบับที่ 2 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น
ตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ห้ามบุคคลทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 - 04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมวางแผนและพิจารณาจัดกำพล ระดมอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ และยานพาหนะ ออกตรวจตรากวดขันเพื่อให้เป็นตามข้อกำหนดดังกล่าว อันเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง
ดังนั้นสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จึงปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเข้มข้น และอยากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับในวันนี้ พนักงานสอบสวนแต่ละ สภ.ได้ส่งฟ้องในข้อหาออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 - 05.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่มีความจำเป็น หรือเข้าข้อยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 ข้อ 1 และศาลได้พิพากษาจำคุก 3 เดือน แต่ให้รอลงอาญาไว้ และปรับอีก 5,000 บาท โดยศาลลงโทษทุกราย จึงขอเตือนผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
-------------------------------------------------------
โดย ฟงหวิน ศักดิ์อัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เชียงใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง