ข่าว

"คลาวด์"ทางออกองค์กรธุรกิจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 เสนอ"คลาวด์"ทางออกองค์กรธุรกิจ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงเวลาชะงักงัน     

       ต้องยอมรับว่าการระบาดของโควิด-19 ได้สร้างความปั่นป่วนทางด้วยเศรษฐกิจไปทั่วโลก รวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ ทันด่วน ฉับไว ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว ทว่าการใช้เทคโนโลยี"คลาวด์"ในการขับเคลื่อนธุรกิจน่าจะเป็นอีกทางออกหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ในสถานการณ์ชะงักงันเช่นนี้ เนื่องจากการใช้บริการพับลิคไพรเวท หรือไฮบริดคลาวด์นั้นจะการสามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลสำคัญ ๆ ได้ตลอดเวลา

\"คลาวด์\"ทางออกองค์กรธุรกิจ

     

       แมตต์ ยัง รองประธานอาวุโสฝ่ายขายและหัวหน้าฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น นูทานิคซ์ ได้เขียนบทความการใช้เทคโนโลยี“คลาวด์”ในการขับเคลื่อนธุรกิจไว้อย่างน่าสนใจ โดยเขาระบุว่าในภาวะที่ธุรกิจในเอเชียต้องต่อสู้กับปัญหาทางสังคม การเมือง และภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่เรียงหน้ากันเข้ามา องค์กรจะบริหารและประคับประคองการดำเนินกิจการของตนไว้ได้อย่างไร ในสถานการณ์ที่พนักงานไม่สามารถเข้ามาทำงานที่สำนักงานได้ และยังต้องทำงานให้ได้และให้เกิดประสิทธิภาพ องค์กรจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความวิตกกังวลมากจนเกินไป

          แม้ว่าการกลับมาเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจโลกอีกครั้งหนึ่งจะเป็นความท้าทายสำหรับภูมิภาคเอเชีย แต่เอเชียก็ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน และการชะงักงัน ทั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และโดยน้ำมือมนุษย์ การหลอมรวมกันของระบบเศรษฐกิจต่าง ๆ ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและมีการรวมกลุ่มกันนั้น ซึ่งหากมองด้วยความจริงที่ว่าเราอาศัยอยู่ในภูมิภาคหนึ่งที่มีความวุ่นวายและยากจะคาดเดาสถานการณ์ได้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

        ในบทความของเขาระบุว่าสำหรับบริษัททั้งหลายในเอเชีย ความต่อเนื่องและความยืดหยุ่นจะเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ต่อการดำเนินธุรกิจ การประท้วงในฮ่องกงที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ไฟป่าในออสเตรเลีย  รวมถึงการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วเอเชีย และภูมิภาคอื่น ๆ นั้น ทำให้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อบริหารจัดการกับสถานการณ์ ที่พนักงานไม่สามารถทำงานที่สำนักงานได้ แต่นายจ้างยังจำเป็นต้องให้ “ทำงาน” และสร้างผลงานให้กับองค์กร

        ดังนั้นการที่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในช่วงเวลานี้จึงเป็นสิ่งเป็น โดยบทบาทของเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้กลไกทางเศรษฐกิจของโลกยังคงดำเนินต่อไปได้ จึงโดดเด่นขึ้นมาเป็นที่จับตามอง ในภาวะที่ผู้คนนับล้านในภูมิภาคที่ประสบปัญหาถูกแยกออกจากสังคมโลก และในช่วงเวลาแห่งความท้าทายไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ซอฟต์แวร์ โซลูชั่น และแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ช่วยให้องค์กรในเอเชียมีความเชื่อมั่นต่อการคาดการณ์ทางธุรกิจเพื่อบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ยังคงสามารถวางแผนรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์และความไม่แน่นอนต่าง ๆ ได้อีกด้วย

        เทคโนโลยีคลาวด์ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ในสถานการณ์ชะงักงันเหล่านี้ การใช้บริการพับลิค ไพรเวท หรือไฮบริดคลาวด์ หมายถึงการสามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลสำคัญ ๆ ได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานไอทีจากที่ทำงานบนฮาร์ดแวร์ไปเป็นการควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์แบบกายภาพอีกต่อไป และสามารถควบคุมการดำเนินงานส่วนกลางได้จากระยะไกลหรือใช้คนจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะการณ์ที่ไม่สงบ ธุรกิจหลายแห่งก็ยังคงดำเนินกิจการได้เป็นปกติ     

        เนื้อหาในบทความระบุอีกว่าโครงสร้างพื้นฐานเดสก์ท็อปเสมือนจริง และเดสก์ท็อปแอสอะเซอร์วิส เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ ที่ทำให้เราได้เห็นวิธีการที่เทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ในเอเชียยังคงดำเนินกิจการได้ในสภาวะเช่นนี้ วีดีไอ(VDI) เป็นระบบเดสก์ท็อป ที่ทำงานบนคลาวด์ ซึ่งโดยปกติจะติดตั้งอยู่ในศูนย์ข้อมูลขององค์กร ดำเนินการและดูแลโดยบุคลากรด้านไอทีขององค์กรนั้น ๆ

      ซึ่งข้อดีระบบนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับจูนและควบคุมฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งอยู่ในองค์กร และสภาพแวดล้อมในการทำงานได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เหมาะกับบริษัทที่มีข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูง โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่มีความยืดหยุ่นสามารถช่วยปรับขยายการทำงานได้อย่างง่ายดายเพียงไม่กี่ขั้นตอน ซึ่งเหมาะมากเมื่อองค์กรต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน หรือมีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น เหตุการณ์ที่คาดการณ์ไม่ได้ต่าง ๆ ที่เราได้พบเจอในช่วงที่ผ่านมา 

   แต่ประโยชน์ที่แท้จริงที่องค์กรจะได้รับคือวีดีไอ(VDI)จะช่วยให้บุคลากรทำงานได้อย่างคล่องตัวและมีความยืดหยุ่น ในขณะที่ข้อมูลทางธุรกิจยังคงความปลอดภัย และไม่กระทบต่อผลงานหรือประสิทธิภาพ เพราะระบบช่วยให้พนักงานทำงานได้จากทุกที่ บนอุปกรณ์ทุกประเภทอย่างปลอดภัย และสามารถเข้าใช้งานเดสก์ท็อป ไฟล์ และเน็ตเวิร์คของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    อย่างสถานการณ์ความไม่สงบที่ฮ่องกง บริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเงินของฮ่องกงใช้ระบบวีดีไอ(VDI)เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดให้กับพนักงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่อาจคาดการณ์สถานการณ์รอบข้าง และเป็นอันตรายได้ แต่พนักงานยังทำงานได้อย่างปลอดภัยในระดับสูงสุด

    ขณะที่ดีเอเอเอส(DaaS) ก็เป็นโซลูชั่นในการเข้าใช้เวอร์ชวลเดสก์ท็อปที่ให้บริการบนพับลิคคลาวด์ โดยไม่ต้องพึ่งพาหรือใช้ฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งอยู่ภายในองค์กรแต่อย่างใด ทำให้ผู้ใช้เข้าใช้ได้อย่างรวดเร็ว มีความยืดหยุ่น ปลอดภัย มีการป้องกันที่แน่นหนา และการเข้าใช้งานและเข้าถึงทรัพยากรไอทีได้เหมือนกับวีดีไอ(VDI) โดยมีต้นทุนเริ่มต้นต่ำกว่า 

 

     เมื่อวีดีไอ(VDI)และดีเอเอเอส(DaaS) เข้ามามีบทบาทเต็มตัวเพื่อช่วยให้เกิดองค์กรอัจฉริยะ เทคโนโลยีดังกล่าวจึงไม่เพียงมีความสำคัญต่อความต่อเนื่องและความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่ยังมอบผลประโยชน์ให้กับองค์กรดิจิทัลในช่วงเวลาที่มีความผันผวนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นการรวมศูนย์ทรัพยากร ทำให้การแก้ปัญหา การอัพเกรด หรือการแพชเป็นแบบระบบเดียว 

   นอกจากนี้การใช้แบนด์วิดท์น้อยลงยังช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและประหยัดพลังงาน ความยืดหยุ่น ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเวิร์กสเตชั่นและข้อมูลของบริษัทได้จากทุกที่บนทุกอุปกรณ์ ความปลอดภัย เพราะเป็นการทำงานบนเซิร์ฟเวอร์เดี่ยว ทำให้ข้อมูลปลอดภัยมากกว่าและง่ายต่อการปกป้องรวมถึงอัพเกรดวีดีไอ(VDI)และดีเอเอเอส(DaaS) ให้ความสามารถในการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ได้ตามนโยบายที่บริษัทกำหนด สร้างความมั่นใจในการใช้งานระบบเครือข่ายที่โปร่งใส 

     ดังนั้นวีดีไอ(VDI)และดีเอเอเอส(DaaS) จึงเป็นโมเดลที่ร่วมกันทำให้ธุรกิจในเอเชียมีทางเลือกที่ง่ายและเข้าถึงได้ เพื่อให้ความมั่นใจว่าพนักงานขององค์กรยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด ดูเหมือนว่าโมเดลทั้งสองนี้จะเป็นเสาหลักของกลยุทธ์ด้านความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจของภูมิภาคนี้ เนื่องจากองค์กรธุรกิจต่างมองหาแนวทางที่จะช่วยลดความเสี่ยงและการหยุดชะงักที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 

     อย่างไรก็ตามปัจจุบัน เทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud) กำลังเป็นที่สนใจและได้รับการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะข้อดีของระบบคลาวด์สามารถนำข้อมูลที่ต้องการใช้งานมาใช้ได้ตลอดเวลาเท่าที่เราสามารถถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องถืออุปกรณ์บันทึกอย่างแฟลชไดร์ หรือ External HDD ติดตัว ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญหายและเสียหายจากเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ ในต่างประเทศนั้น เทคโนโลยีด้านคลาวด์ ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่่หลายมานานแล้ว ด้วยข้อดีของเทคโนโลยีตัวนี้  ในขณะที่ประเทศไทยการใช้งานยังคงจำกัดในวงแคบอยู่มาก และถูกนำมาใช้งานไม่กี่อย่างเท่านั้น                  

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ